จัดทัพ 5 กลุ่มหลักประเด็นบวกเพียบ-ลุ้นผลงานกระฉูด!
จัดทัพ 5 กลุ่มหลักประเด็นบวกเพียบ-ลุ้นผลงานกระฉูด!
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ ที่คัดเลือกหุ้นที่น่าทยอยเข้าลงทุนใน 5 กลุ่มหลัก โดยคัดเลือกจากกลุ่มที่มีปัจจัยบวก ขณะที่ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์ อีกทั้งเป็นหุ้นที่มีความปลอดภัยจากการถูกเก็งกำไรสูง ประกอบด้วย BJC ,SEAFCO ,ERW ,CPALL ,ASK ,SAWAD ,SELIC ,SSP, BPP, JWD, SABINA, S11, AMATA, PLANB, PRM, MINT, RJH
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) มองสัปดาห์นี้ SET Index ยังคง Sideway ในกรอบ 1,590-1,640 จุด โดยแม้กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแต่เรามองเป็นประเด็นบวกเล็กน้อย บวกกับยังคงติดตามความคืบหน้าของ Trade war สหรัฐฯ-จีน นอกจากนี้ตลาดจะมุ่งความสนใจไปยังการประกาศงบช่วงไตรมาส 3/62 มากขึ้นจนถึงปลายสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลให้มีการปรับประมาณการ EPS ในปีนี้ลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุน เริ่มทยอยลงทุนในหุ้น 5 กลุ่ม ดังนี้
1. หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวจากครึ่งปีแรกจากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้
บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), ERW (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค.โต 15.6% จากปีก่อน), CPALL (ช่วงไตรมาส 3/62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)
2. กลุ่ม Defensive Stock: เลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
3. กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วงไตรมาส 2/62 คาดโตจากปีก่อนและช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8% จากปีก่อน หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่)
4. หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 โต เข้าสู่ High Season: PR9 (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดกำไรโตจากปีก่อน ราคา ปจบ. Discounted กว่า 26% เทียบราคา IPO ที่ 11.60 บาท บวกกับนักลงทุนกังวลผลกระทบการบันทึกค่าเสื่อมของการเปิดตึกใหม่มากเกินไป สวนทางกับภาพแนวโน้มการเติบโตที่สดใสของธุรกิจ เนื่องจากความแข็งแกร่งของบริษัทที่ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บริษัท โดยเตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในรองรับลูกค้าได้อีกกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้) และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน
รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุนบ.มีโอกาสคุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.94 เท่า ,P/BV 1.58 เท่า และEV/EBITDA 8.68 เท่า (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 32.65 เท่า ,P/BV 4.55 เท่า และEV/EBITDA 19.83 เท่า))
5. หุ้นที่คาดกำไรช่วงไตรมาส 3/62 โตจากปีก่อน,จากไตรมาสก่อน และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, BPP, JWD, SABINA, S11, AMATA, PLANB, PRM, MINT, RJH