โบรกฯเคาะ “ซื้อ” ORI ผลงานไตรมาส 4 เร่งตัวรับมาตรการรัฐ อัพไซด์เกิน 40%
โบรกฯเคาะ "ซื้อ" ORI ผลงานไตรมาส 4 เร่งตัวรับมาตรการรัฐ อัพไซด์เกิน 40%
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 มาตรการ ซึ่งมีมาตรการเกี่ยวข้องกับการลดภาระซื้อที่อยู่อาศัยรวมอยู่ด้วย โดยรัฐจะสนับสนุนเงินดาวน์จำนวน 5 หมื่นบาท จำกัดให้เพียง 1 แสนรายที่รายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท / เดือน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ORI จะเป็นหนึ่งในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว
ขณะเดียวกันยังมองว่าในช่วงไตรมาส 4/62 จะเป็นช่วงการเร่งตัวของรายได้ของบริษัท เนื่องจากมีโครงการที่รอรับรู้รายได้ในช่วงนี้ค่อนข้างสูง รวมทั้งยังได้รับผลดีจากมาตรการลดหย่อนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินในการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่ดินพร้อมอาคารสำหรับผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ราคาไม่เกินสามล้านบาทอีกด้วย
โดยนักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น ORI ประเมินราคาเป้าหมาย 10.20 บาทต่อหุ้น คาดกำไรปกติในปี 2562-2563 จะเติบโตได้เฉลี่ย 10% หนุนจากรายได้มีแนวโน้มเติบโตจากโครงการที่จะทยอยสร้างเสร็จ และโอนในช่วงปี 2562-2564 กว่า 66 โครงการ มูลค่ารวมกว่าแสนล้านบาท รวมถึงโครงการโรงแรมและอาคารสำนักงานให้เช่า
นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการในพื้นที่ EEC และที่ดิน เปล่ากว่า 25 ไร่ ซึ่งสามารถนำไปทำโครงการได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยมองว่า ราคาหุ้นปัจจุบันที่ซื้อขายเพียง 5.6 เท่า Trailing PE อยู่ในจุดที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับการ ปรับตัวของธุรกิจที่มีรายได้ประจำเข้ามาและยังมี ROE แข็งแกร่งถึง 40%
ส่วนนักวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย “บ้านดีมีดาวน์” โดยสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาท เป็นจำนวน 100,000 ราย โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 27 พ.ย.62-31 มี.ค.63 (ประชาชาติ) บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการระบายสต็อกโครงการพร้อมโอนในช่วงไตรมาส 4/62-1/63
โดยคาดว่า ORI จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว จึงแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย 10 บาทต่อหุ้น และคาดว่าไตรมาส 4/62 จะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นสุดของปีจาก Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้กว่า 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วย Secure รายได้ที่ 90% ของที่บล.เอเชีย เวลท์ ประมาณการไว้ในปี 2562 โดยมาจากการโอนโครงการทั้ง Khights Bridge Prime สาธร ซึ่งคาดว่าจะโอนได้ในไตรมาส 4/62 ราว 2,500 ล้านบาท และการโอนโครงการต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า
ทั้งนี้ยังควบคู่ไปกับการระบายสต็อกโครงการที่ได้รับอานิสงส์จากทั้งมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมและแคมเปญกู้ดอกเบี้ยถูกจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งจากแผนการโอนโครงการทั้งหมด และคาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2562 จะอยู่ในระดับ 16,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นในระดับที่เอเชีย เวลท์ ประมาณการไว้
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น ORI ประเมินราคาเป้าหมาย 8.60 บาทต่อหุ้น โดยกำไรปกติไตรมาส 3/62 ออกมาใกล้เคียงคาด เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่ลดลง 5% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/62 คาดขยายตัวเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี จากการโอนคอนโดต่อเนื่อง และเริ่มส่งมอบคอนโดใหม่อีก 1 แห่ง เสริมด้วยแนวราบที่เข้ามาหนุนจากการเปิดโครงการใหม่
ด้านราคาหุ้น ORI ปิดตลาดวานนี้ (27 พ.ย.) อยู่ที่ 6.95 บาท ลบ 0.20 บาท หรือ 2.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49.98 ล้านบาท ยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 10.20 บาท อยู่ 46% นอกจากนี้จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 26 พ.ย.2562 มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) 5.40 เท่า