ส่อง 3 หุ้นอสังหาฯ อัพไซด์สูง พร้อมเด้งรับมาตรการกระตุ้นรอบใหม่!

ส่อง 3 หุ้นอสังหาฯ อัพไซด์สูง พร้อมเด้งรับมาตรการกระตุ้นรอบใหม่!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นกลุ่ม ที่รัฐบาลได้มีการออกมาตรการกระตุ้นออกมาในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการในช่วงปีดังกล่าว

ประกอบด้วย SPALI AP และLH โดยหุ้นดังกล่าวยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ ขณะที่ยังเป็นหุ้นที่มีจุดเด่นรองรับด้วย Backlog สูง และแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะออกมาดี

โดย บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (27 พ.ย.62) ถึงกรณีที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและของขวัญให้ประชาชนในช่วงปลายปี 2562 โดยหนึ่งนั้น คือ มาตรการส่งเสริมการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” เพื่อเป็นการลดภาระ และสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ขณะที่ภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาท ต่อราย สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร จำนวน 100,000 ราย และผ่านเกณฑ์ ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2562 – 31 มีนาคม 2563 กำหนดเริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์ รัฐช่วยผ่อนบ้านดีมีดาวน์ วันที่ 11 ธค. 2562 – 31 มี.ค. 2563

โดยมองว่าเป็นเรื่อง Surprise ตลาดฯ และสร้าง Sentiment บวกต่อกลุ่มอสังหาฯ ทำให้เกิดการระบายสต๊อกสินค้าคงเหลือในจำนวน 1 แสนยูนิต (ตามการใช้สิทธิเต็มจำนวน 1 แสนราย) โดยเฉพาะในกลุ่มราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 5-6 ล้านบาท (พิจารณาจากฐานเงินเดือน 1 แสนบาทต่อเดือน สามารถกู้ได้ 30-40% ของรายได้ หรือ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน และภายใต้วัฎจักรดอกเบี้ยขั้นต่ำ อัตราผ่อนชำระที่อยู่อาศัย (บ้าน/คอนโดฯ) มูลค่า 1 ล้านบาท จะอยู่ที่ 6-7 พันบาท/เดือน หากสามารถผ่อนชำระได้ราว 3-4 หมื่นบาท จะสามารถกู้ได้สูงสุดสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยไม่เกิน 5-6 ล้านบาท) เนื่องจากสินค้าระดับราคาไม่เกิน 5-6 ล้านบาท ถือเป็นสินค้าที่ผู้ประกอบการทุกรายที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ มีอยู่ในพอร์ตเป็นส่วนใหญ่

ทั้งนี้สรุปการมีมาตรการดังกล่าว นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการระบายสต๊อกแล้ว คาดยังช่วยหนุนให้ Backlog (รวม JV) สิ้น 3Q62 ของกลุ่มฯ ที่มีระดับ 3 แสนล้านบาท และเป็นส่วนที่พร้อมส่งมอบปีหน้าราว 1 แสนล้านบาท และเข้าเกณฑ์ราคาตามาตรการ สามารถโอนฯ ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะงวดไตรมาส 1/63 ที่เป็นช่วงเกิดขึ้นของโครงการ

โดยได้เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตราการนี้, มี Backlog สูง และ Div Yield เกิน 5% ได้แก่ SPALI ([email protected]) มีจุดเด่น Backlog สูงระดับ 4 หมื่นล้านบาท และมีสต๊อกคงเหลือขายพร้อมโอนฯ 1.5 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนที่มีราคาไม่เกิน 5-5.5 ล้านบาท มากกว่า 50% ของพอร์ต ตามด้วย AP ([email protected]) รองรับด้วย Backlog (รวม JV) สูงถึง 5.5 หมื่นล้านบาท ที่จะหนุนกำไรไตรมาส 4/62 โดดเด่น และต่อเนื่องปี 2563 คาดกำไรเติบโต 15% จากปีก่อน รวมถึงปันผลปีละ 1 ครั้งคิดเป็น Div Yield 5% ต่อปี และสุดท้าย LH ([email protected]) ด้วยจุดเด่นของฐานธุรกิจมั่นคง และแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/62 กำไรสูงสุดของปีจากการโอนฯ คอนโดฯ และขายโรงแรมเข้า LHHOTEL หนุนเงินปันผลพิเศษ คาด Div Yield กว่า 7% ต่อปี

 

ด้าน บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(27พ.ย.62)ว่า  รัฐบาลออกมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย “บ้านดีมีดาวน์” โดยสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาท เป็นจำนวน 100,000 ราย โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 27 พ.ย.62-31 มี.ค.63 (ประชาชาติ)

ความเห็น: คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการระบายสต็อกโครงการพร้อมโอนในช่วงไตรมาส 4/62-1/63 ซึ่งเราคาดว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว ได้แก่ SPALI (AWS TP 20.00 บาท) ANAN (AWS TP 3.50 บาท) ORI (AWS TP 10.00 บาท) และ AP (AWS TP 8.20 บาท)

 

Back to top button