โบรกฯแนะ “ซื้อ” AMATA ลุ้นผลงานปี 63 ฟื้น เคาะเป้าสูง 35.70 บ.

โบรกฯแนะ "ซื้อ" AMATA ลุ้นผลงานปี 63 ฟื้น เคาะเป้าสูง 35.70 บ.


“ข่าวหุ้นธุรกิจอนนไลน์” ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA หลังนักวิเคราะห์ แนะนำซื้อ โดยมองว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2563 จะฟื้นตัวขึ้น จากการรับรู้กำไรพิเศษจากการที่ บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม แบ่งขายเงินลงทุน 49% ใน 2 บริษัทพัฒนาโครงการ Long Thanh ในเวียดนาม มูลค่า 2.16 พันล้านบาท

ประกอบกับ ยอดขายที่ดินทั้งในประเทศไทยและเวียดนามน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ที่ไหลเข้ามาในประเทศไทย และคำขอส่งเสริมลงทุน ซึ่งจะทำให้มีอุปสงค์ที่ดินกว่า 3,000 ไร่ โดย AMATA มีส่วนแบ่งตลาดราว 30%, การย้ายฐานการผลิตจากจีน หลังมีประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ และรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในเวียดนามเพิ่มขึ้นตามการโอนที่ดิน

ด้านราคาหุ้นที่ร่วงลงราว 18% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาน่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทำให้เป็นโอกาสสะสมหุ้นที่ยังมีศักยภาพเติบโตในปีหน้า

โดย นักวิเคราะห์ห บล.เอเซีย พลัส  ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย 35.70 บาท/หุ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ AMATA สามารถทำกำไรสุทธิได้แล้ว 1.49 พันล้านบาท คิดเป็น 85% ของประมาณการทั้งปี 2562 และแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/62 ยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ยังคงประมาณการกำไรในปีนี้ในระดับเดิมที่ 1.75 พันล้านบาท เติบโต 71.7% จากปีที่แล้ว

ขณะที่ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 2.4 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันกำไรในปี 63 เติบโตอีก 11.2% จากปีนี้ รวมถึงยังมี upside จากแผนการขายเงินลงทุนในเวียดนามของกลุ่ม AMATA ซึ่งคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษหลังภาษีได้ราว 400-500 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ

ด้านราคาหุ้น AMATA ปรับลดลงมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ Valuation น่าสนใจ โดย PER ซื้อขายในปี 63 ลดลงเหลือเพียงราว 11.6 เท่า ทำให้ Upside เปิดกว้างจึงเป็นโอกาสซื้อลงทุนระยะยาว 

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลล์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย 30.50 บาท โดยปัจจุบัน AMATA อยู่ระหว่างการเจรจาขายที่ดินอีก 150-200 ไร่ คาดว่าน่าจะเซ็นสัญญาและรับรู้เป็นยอดขายที่ดิน (Presaels) ในไตรมาสนี้ ทำให้ในปี 62 คาดว่าจะมียอดขายที่ดินอยู่ที่ 700-750 ไร่ จากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดแล้วที่ 526 ไร่ ขณะที่ก็จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม Bien Hoa ราว 2-4 เฮกเตอร์ ในไตรมาส 4/62 ด้วย โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/62 มี Backlog ทั้งสิ้น 2.42 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปี 63 กว่า 70%

สำหรับในปีหน้า AMATA จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนาม โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม Halong ซึ่งคาดว่าจะมีการขายที่ดินจำนวน 20-30 เฮกเตอร์ ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าก็จะมีการทยอยรับรู้รายได้จากการขายหุ้น 49% ของ Amata Service City Long Thanh 1&2 คิดเป็นมูลค่าราว 2.1 พันล้านบาท

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย 25.90 บาท มองว่าภาพรวมธุรกิจของ AMATA ในปีหน้าน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น จากยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามที่คาดว่าจะอยู่ที่ 150-200 ไร่ และยังมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการที่ AMATAV ขายเงินลงทุน 49% ในโครงการทาวน์ชิพ 2 แห่งในนิคมอุตสาหกรรม AMATA CITY Long Thanh มูลค่า 2.16 พันล้านบาท ให้กับ Nova Rivergate ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในเวียดนามที่มีแผนการพัฒนาที่ดิน 2 แห่งนี้เป็นโครงการที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิของ AMATA ในปี 2563 เติบโตมาที่ 1.88 พันล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ 1.71 พันล้านบาท ขณะที่ยอดขายที่ดินในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 750 ไร่ จากปีนี้คาดทำได้ 726 ไร่ ปัจจุบัน AMATA มียอดขายที่ดินสะสมในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ 526 ไร่ โดยในไตรมาส 4/62 ต้องติดตามดูว่าจะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ โดย AMATA คาดยอดขายที่ดินในปีนี้จะอยู่ที่ 700-800 ไร่ ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ 950 ไร่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน, เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ถือเป็นกลุ่มลุกค้าหลัก ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจของอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่จะเข้ามาลงทุน

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหม่ยที่ 25.50 บาท/หุ้น ยอดขายที่ดินในไตรมาส 4/62 ของ AMATA จะอยู่ที่ประมาณ 200 ไร่ จากช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ที่ทำได้แล้ว 526 ไร่ ซึ่งจะทำให้ยอดขายที่ดินปีนี้อยู่ที่ประมาณ 700 ไร่ ต่ำกว่าเป้าของ AMATA ที่ตั้งไว้ 950 ไร่ในปีนี้ และต่ำกว่าสมมติฐานของเคจีไอฯที่มองไว้ระดับ 850 ไร่

อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายที่ดินของ AMATA น่าจะเร่งตัวขึ้นในปีหน้า จากการฟื้นตัวของ FDI ที่ไหลเข้ามาในประเทศไทย และคำขอสิทธิประโยชน์การลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งจะทำให้มีอุปสงค์ที่ดินกว่า 3,000 ไร่ โดย AMATA มีส่วนแบ่งตลาดราว 30%, การย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ และยอดขายที่ดินในเวียดนามเพิ่มขึ้นจากการโอนที่ดิน ทำให้คาดว่ายอดขายที่ดินในปีหน้าจะอยู่ที่ 900 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 800 ไร่ และที่เวียดนาม 100 ไร่ และปี 64 เป็น 950 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 800 ไร่ และเวียดนาม 150 ไร่

ขณะที่คาดยอดโอนในไตรมาส 4/62 จะอยู่ที่ 100 ไร่ จาก 9 เดือนแรกปีนี้ ที่มียอดโอนอยู่ที่ 709 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก backlog ทำให้คาดว่ายอดโอนที่ดินปีนี้จะอยู่ที่ราว 800 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่ 439 ไร่ถึงเท่าตัว ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 62 โตถึง 78% จากปีก่อน ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดโอนที่ดินน่าจะลดลง เป็นไปตาม Backlog ส่งผลให้กำไรทรงตัวในปี 63 ก่อนที่จะขยับสูงขึ้นกว่า 10% ในปี 64

อย่างไรก็ตาม แม้เคจีไอฯ จะมีการปรับประมาณการกำไรปี 62-63 ลงประมาณ 6% สะท้อน Backlog และราคาขายที่ดินที่อ่อนตัว แต่เชื่อว่าหุ้นถูกเทขายมากไป ราคาหุ้นร่วงแรงถึง 18% ในสัปดาห์ที่แล้ว จากความกังวลเรื่องยอดขายที่ดิน, กำไรน่าจะไม่โตในปีหน้า และสถานการณ์การเมือง จึงมองเป็นโอกาสให้เข้าสะสม เพราะราคาหุ้นคิดเป็น PER ที่ต่ำเพียงแค่ 11 เท่า ในขณะที่น่าจะยังมีอุปสงค์ที่ดินจากกระแส FDI และคำขอสิทธิประโยชน์บีโอไอ เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นทางเลือกการลงทุนที่ดีอยู่

Back to top button