BAM ลงสนามเทรดวันนี้! ลุ้นวิ่งเหนือจอง 17.50 บ. ชูผู้นำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ยาวนาน 20 ปี
BAM ลงสนามเทรดวันนี้! ลุ้นวิ่งเหนือจอง 17.50 บ. ชูผู้นำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ยาวนาน 20 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (16 ธ.ค.62) หุ้นบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด มหาชน หรือ BAM จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยมีราคา IPO ที่ 17.50 บาท มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 5 บาท
โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป จำนวนไม่เกิน 1,765 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 54.4 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (กรณีผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ทั้งจำนวน) ในครั้งนี้
ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น 2.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 1,255 ล้านหุ้น และ 3.หุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 230 ล้านหุ้น
สำหรับสัดส่วนในการเสนอขายหุ้น ประกอบด้วย บุคคลทั่วไปไม่เกิน 414.50 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 27 และผู้ลงทุนสภาบันไม่เกิน 1,120.50 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 73
ทั้งนี้กำหนดราคาหุ้นไอพีโอ 17.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (P/BV ratio) 1.73 เท่า และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยเกณฑ์กำไรสุทธิ (Profit Test) โดยกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ ในวันที่ 16 พ.ย.2562 โดยมีบล.กสิกรไทย และบล.ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ BAM ประมาณการว่าจะได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้หลังจากหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์ จำนวนประมาณ 3,954 – 4,502 ล้านบาท ในกรณีผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินไม่มีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังนี้
เพื่อนำไปใช้ซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายในอนาคตประมาณ 394 – 449 ล้านบาทภายในปี 2563 และนำเงินไปใช้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และ/หรือชำระหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดที่ออกโดยบริษัทฯ และ/หรือตั๋วเงินจ่ายเพื่อการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายประมาณ 3,546 – 4,040 ล้านบาทภายในปี 2563
ส่วนในกรณีผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯทั้งจำนวน บริษัทฯ ประมาณการว่าจะได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ประมาณ 7,447 – 8,448 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการเสนอขาย และไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้เพิ่มเติมจำนวนประมาณ 3,507 – 3,959 ล้านบาท จากการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ภายในปี 2563
สำหรับ BAM ประกอบธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) โดยเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ถือหุ้นใหญ่ทั้งหมดโดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF)
ด้านนางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการ BAM กล่าวว่า ผลการตอบรับที่ดีสะท้อนให้เห็นว่าผู้ลงทุนมีความมั่นใจในศักยภาพการเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์และประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 20 ปีของ BAM และมีความสนใจในการลงทุนอย่างมีคุณภาพในระยะยาว ซึ่งบริษัทจะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และการเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทยไปกับเรา
ขณะที่ นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ BAM ในครั้งนี้ จะมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Greenshoe) จำนวนไม่เกิน 230 ล้านหุ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน
สำหรับการจัดสรรหุ้นสามัญให้แก่บุคคลทั่วไปจะจัดสรรผ่านระบบการสุ่มเลือก (Random) โดยระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจะประกาศผลผู้ที่ได้รับการจัดสรรผ่านเว็บไซด์ www.settrade.com ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค.62 นี้ โดยจำกัดจำนวนหุ้นที่ได้รับจัดสรรไม่เกิน 1,000,000 หุ้นต่อผู้จองซื้อหนึ่งราย
นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า คาดว่าหุ้น BAM จะสามารถพร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ นับเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของประเทศที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องสำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา