สปอยล์งบฯ ไตรมาส 4 กลุ่มแบงก์ โบรกฯชี้ SCB โตเด่นสุด!
สปอยล์งบฯ ไตรมาส 4 กลุ่มแบงก์ โบรกฯชี้ SCB โตเด่นสุด!
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส จำกัด โดยให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็น “Neutral”
โดย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คาดการณ์กำไรสุทธิ 7 ธนาคารที่ทำการวิเคราะห์ไว้ที่ 1.71 แสนล้านบาท เติบโต 2.4% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ทั้งนี้มองว่า SCB กำไรสุทธิโตเด่นสุดเพราะมีกำไรจากขายเงินลงทุน ซึ่งคาดการณ์กำไรดังกล่าวดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า ทั้งนี้การเติบโตมาจากการขยายตัวของสินเชื่อ (แม้ว่า NIM จะแคบลง) และตั้งสำรองทั่วไปน้อยลง
ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขึ้นกับแต่ละธนาคาร แต่โดยรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ธนาคารที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายเติบโตมากที่สุด คือ SCB (+11.3% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) เพราะมีกำไรก้อนใหญ่จากการขาย SCBLIFE ในไตรมาส 3/62 แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษนี้ จะมีกำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ กำไรก่อนสำรองค่าเผื่อฯ อ่อนลงทุกธนาคาร ยกเว้น KKP เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง & ค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น ส่วน KKP ที่ดีกว่ากลุ่มเพราะรายได้ดอกเบี้ยรับและค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/62 คาดกำไรสุทธิ 7 ธนาคารเท่ากับ 4.12 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 23.8% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, ลดลง 10.8% จากไตรมาสก่อน)
โดย TMB โดดเด่นในไตรมาสนี้ ปัจจัยหนุนการเติบโตจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน คือ การตั้งสำรองฯลดลง (-4.5% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 21.7% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)
ส่วนการหดตัวจากไตรมาสก่อน เพราะรายได้ดอกเบี้ยลดลง (-1.1% จากไตรมาสก่อน) เพราะ NIM แคบลง และช่วงไตรมาส 3/62 ทาง SCB มีกำไรจากการขายเงินลงทุนก้อนใหญ่ ธนาคารที่มีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/62 เติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และ จากไตรมาสก่อน คือ BBL, KTB, TMB, TISCO, KKP ส่วน KBANK และ SCB คาดว่ากำไรสุทธิจะโตจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนแต่หดตัวจากไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ ให้ KKP เป็นหุ้น Top Pick ของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากธนาคารมีการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่มทั้งในธุรกิจแบงค์และตลาดทุน (ดำเนินงานผ่านบล.ภัทร) คาดกำไรสุทธิปีไตรมาส 4/62 ขยายตัว +18.5% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และ +5.1% จากไตรมาสก่อน
รวมทั้งจ่ายปันผลสูงด้วย คาดการณ์ Final dividend yield สำหรับครึ่งปีหลังของปี 62 เท่ากับ 3.6%-4.4% (จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 1 ครั้ง) และสำหรับปี 63 เท่ากับ 6-7% นับว่าจูงใจมาก พร้อมกันนั้นหุ้นก็มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูงด้วย