ดักเก็บ 30 หุ้น SET100 ช่วงตลาดฯผันผวน! ชู P/E ต่ำ-เทรดต่ำบุ๊ก-พ่วงปันผลสูง
ดักเก็บ 30 หุ้น SET100 ช่วงตลาดฯผันผวน! ชู P/E ต่ำ-เทรดต่ำบุ๊ก-พ่วงปันผลสูง
ภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงนี้มีหลายปัจจัยเสี่ยงกดดันไม่ว่าจะเป็นความกังวลของโรคไข้หวัดไวรัสปอดอักเสบ(Coronavirus) และค่าฝุ่น PM 2.5 ทั้งในกทม.และต่างจังหวัดเกินมาตรฐาน และทิศทางการเมืองเกี่ยวกับการโหวตพ.ร.บ.งบประมาณที่คาว่าจะล่าช้า และกังวลผลการดำเนินงานปี 2562 หลังจากกลุ่มแบงก์นำรองประกาศออกมาไม่สดใส
ปัจจัยดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบภาพต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย และส่งผลให้ทิศทางตลาดหุ้นผันผวนและมีแรงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นพื้นฐานหลายตัวร่วงหนักจนเกินราคาพื้นฐาน ขณะที่นักวิเคราะห์ได้แนะนำกลยุทธ์ลงทุนทั้งระยะกลาง-ยาว คือ เลือกลงทุนทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีเน้นหุ้น Defensive และปันผลสูง
ดังนั้นทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจกลุ่มหุ้น SET100 มานำเสนอ โดยคัดเลือกจากราคาหุ้นที่ต่ำกว่า P/E ตลาดหลักทรัพย์(SET) ณ วันที่ 22 ม.ค.63 อยู่ที่ระดับ 19.29 เท่า และคัดเลือกหุ้นราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชี(Price/Book Value) ไม่เกิน 1 เท่า และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงมานำเสนอดังตารางประกอบ
โดยกลุ่มหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชี อาทิ BBL,KTB,STA,IRPC,BANPU,PSH,PTTGC,TCAP,SCB,BCP,AP,ESSO,TOP น่าจะเป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานแกร่งราคาถูกและมีปันผลสูงอีกทาง
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปัจจุบันหลายปัจจัยกดดันการลงทุนในประเทศนำโดย 1) ความกังวลของโรค Coronavirus หรือไข้หวัดไวรัสปอดอักเสบที่ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 6 ประเทศ ส่วนในไทยพบผู้ป่วย 4 ราย ประกอบด้วยชาวจีน 3 ราย, ชาวไทย 1 ราย
ล่าสุดเมืองอู่ฮั่นของจีนประกาศมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาแล้วโดยไม่ให้ประชาชนเดินทางออกจากมืองซึ่งอาจช่วยคลายกังวลได้บางส่วน อย่างไรก็ดีปัจจุบันกำลังเข้าสู่ช่วงตรุษจีนซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในห้าเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน โดยเดิมทีคาดการณ์นักท่องเที่ยวปีนี้ประมาณ 3.7 แสนคน (+2.7%YoY) หากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางผ่าน AOT ลดลง จะส่งผลต่อกำไรประมาณ 0.1% (AOT มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนสูงกว่า 24%)
ในขณะที่กลุ่มโรงแรมอย่าง MINT, ERW, CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน 13-18% จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ฉะนั้นแนะนักลงทุนติดตามรายละเอียดและผลกระทบหลังเทศกาลตรุษจีนเพื่อประเมินผลกระทบต่อกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบินอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันจับตาประธานส.ส.พิจารณาเรื่องที่มีการเรียกร้องให้โหวตพ.ร.บ.งบประมาณใหม่อีกครั้ง หลังพบว่ามีส.ส.เสียบบัตรและโหวตแทน ซึ่งหากส่งศาลรธน.รับวินิจฉัยอาจทำให้การเบิกจ่ายงบช้ากว่าคาดซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาด และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
กลยุทธ์การลงทุน คงมุมมอง SET Index ผันผวนโดยให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,560-1,590 จุด เนื่องจากปัจจุบันหุ้นหลายกลุ่มเผชิญกับแรงกดดัน คาดเม็ดเงินบางส่วนไหลกลับพักไปยังกลุ่มที่มั่นคงอย่างโรงไฟฟ้าและรอบดูการ preview ผลประกอบการของนักวิเคราะห์
แนะนำให้ถือหุ้นที่คาดผลประกอบการ และ Outlook ดีนำโดย PTTEP, CPF ขณะที่ประเด็นการเมืองแนะนำให้ติดตามการโหวตพรบ.งบประมาณที่มีการเสียบบัตรแทนกัน และการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 29 ม.ค. นี้
สำหรับภาพรายเดือน แม้ความตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่านจะคลี่คลายลง แต่เชื่อว่าน้ำมันดิบจะทรงตัวได้จากการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC นอกจากนี้การกลับมาอัดฉีดสภาพคล่องจาก FED จะช่วยจำกัด downside ของตลาดหุ้นในครั้งนี้
โดยจากการศึกษาถึงผลตอบแทนของ SET ช่วงไตรมาสแรกของปีนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงินโลกในปี 2551 และพบว่า SET Index ให้ผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกันถึง 10 ปี ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 6% และหากวัดผลตอบแทน SETHD ย้อนหลัง 5 ปี พบว่าสถิติค่อนข้างดี โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเด่นกว่า 7% เมื่อเทียบกับ SET ที่ 4% ด้วยเหตุผลที่ทำการศึกษามาแนะนักลงทุนเริ่มสะสมหุ้นกลุ่มปันผลในเดือน ม.ค. และขายเดือน เม.ย. นำโดย PTTGC (63.50), BCP (31.50), AP (7.50), LH (11.20)
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคคราะห์ว่า ปัจจัยสำคัญ: คลายกังวลโรคระบาดที่จีนมากขึ้น และอาจใช้พรก.กู้แก้งบปี 63 หากล่าช้า เทศบาลอู่ฮั่นเข้มงวดกับการจัดการโรค Coronavirus มากขึ้น แต่การระบาดและล้มตายสูงขึ้น ด้านก.คลังเตรียมมาตรการรองรับหากงบประมาณปี 63 ล่าช้าซึ่งอาจตีตกหรือใช้แก้ไข ด้านข่าวลบคือ ราคาน้ำมันดิ่งลงแรง 2% กังวลภาวะล้นตลาด สหรัฐอาจเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์สูงจากยุโรปเพิ่ม ยอดขายรถยนต์ไทยดิ่งทั้งส่งออกและในประเทศ เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยทองคำและพันธบัตรเพิ่ม เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน น้ำมันล่วงหน้ายังปรับลง
# กลยุทธ์: SET มีโอกาสผันผวนสูง ยังมีปัจจัยลบปกคลุมมาก อาจมีแรงต่อสู้การเข้าเก็งกำไรหุ้นเดินทาง-ท่องเที่ยว หลังคลายกังวลโรคฯบ้าง และราคาหุ้นลงมารับข่าวแล้ว /เช่นเดียวกับหุ้นรับเหมาฯที่อาจใช้การกู้มาช่วยงบที่ล่าช้า แต่ปัญหาก็ยังค้างคาอยู่/ ส่วนหุ้นโรงกลั่น ปิโตรฯก็ยังได้ผลลบจากจีนลดใช้พลาสติก แต่อาจมีแรงซื้อกลับ เพราะลงมาแรง
คาดว่า SET ซื้อขายในกรอบ 1560-1590 จุด แนวต้านเป็น 1580-1590 จุด แนวรับอยู่ที่ 1560-1540 จุด Stop Loss ต่ำกว่า 1570 จุด ระยะสั้น- การเข้าเก็งกำไร เล่นรอบให้ไว
กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เลือกลงทุนทยอยสะสมหุ้นแบบถอยรับเป็นระยะๆ ในหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Defensive และปันผลสูง เพราะความเสี่ยงเจรจาการค้ายังไม่จบ หุ้นกลุ่ม REITs และกองทุนสาธารณูปโภคไต่ระดับดีตามคาด จากบอนด์ยิลด์ไทยที่ยังต่ำ
ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน