3 หุ้นแกร่งพร้อมลุยไฟตลาดหุ้นเดือนส.ค.

เปิดชื่อ 3 บจ. กล้าลุยไฟ เตรียมเข้าซื้อขายในภาวะตลาดหุ้นลุ่มๆ ดอนๆ งานนี้หุ้นตัวไหนจะเป็นขุมทอง หรือจะเป็นฝันร้ายของนักลงทุน ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด ขณะที่วงในประเมินหุ้นที่มีจำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น มีโอกาสติดลมบนค่อนข้างสูง


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนที่เสนอขายหุ้น IPO เสร็จเรียบร้อย และเตรียมตัวเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทั้ง SET และ mai ในเดือนสิงหาคม พบว่ามี บริษัทที่จะเข้าเทรดในเดือนนี้มีอยู่ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกันคือ ASEFACOM7 และ PIMO โดยผู้สื่อข่าวได้นำข้อมูลของทั้ง 3 บริษัทมาวิเคราะห์ เพื่อให้นักลงทุนได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าหุ้นตัวไหนเหมาะที่จะเข้าลงทุนในช่วงภาวะตลาดผันผวนแบบนี้

 

เริ่มที่ตัวแรก บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และติดตั้งผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตซ์บอร์ดไฟฟ้า รางสายไฟ โคมไฟและระบบส่องสว่าง งานบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง และงานบริการหลังการขายครบวงจร  เตรียมเข้าซื้อขายใน SET วันที่ 5 ส.ค. 58 ด้วยจำนวนหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น ในราคา 3.70 บาท โดย ASEFA มี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายหุ้น IPO

โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ได้ให้ส่วนลดราคาจองหุ้น ASEFA เพื่อจูงใจนักลงทุนประมาณ 25% เทียบจากนักวิเคราะห์ที่ประเมินราคาเหมาะสม 4.80-5.10 บาทต่อหุ้น ขณะที่เชื่อว่าราคา IPO ที่ 3.70 บาท เป็นราคาที่มีความน่าสนใจ

 

อันดับ 2 หุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอทีประเภท คอมพิวเตอร์แล็บท็อป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง การให้บริการซ่อมแซมสินค้า ชำระค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และชำระค่าบริการอื่นๆ เตรียมเข้าเทรดใน SET วันที่ 10 ส.ค. 58 ด้วยหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น ในราคา 3.35 บาท โดยที่ปรึกษาทางการเงินได้แก่ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด

ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มั่นใจหุ้น COM7 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากการกำหนดราคา IPO ที่ 3.35 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความน่าสนใจอย่างมาก โดยได้ให้ส่วนลดให้กับนักลงทุน 39% จาก P/E กลุ่มหมวดบริการ

อีกทั้งมั่นใจศักยภาพของ COM7 ในฐานะเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ ของประเทศที่มีจำนวนสาขามากที่สุด ครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศและมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องส่วนภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ที่ปรับฐานลงมา เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับการซื้อขายหุ้น COM7 เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐาน ที่ดีและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

อย่างไรก็ตาม มีการมองว่าจำนวนหุ้น IPO จำนวน 300 ล้านหุ้นนั้น เป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก เสี่ยงต่อการถูกกองทุนเข้ามาเก็งกำไร ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวได้ดีในช่วงวันแรก แต่หลังจากนั้นอาจมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจากแรงเทขายทำกำไร

 

อันดับ 3 บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO ผู้ผลิตมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ มอเตอร์กำลังสำหรับภาคอุตสาหกรรม เครื่องสูบน้ำ ปั้มหอยโข่ง และมอเตอร์สำหรับสระและสปา เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 13 ส.ค.58 ด้วยหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น ในราคา 1.30 บาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

โดย APM ได้งัดกลยุทธ์ทั้งการให้ส่วนลดกับนักลงทุน และกำหนดราคาหุ้น IPO ให้เหมาะสมกับภาวะตลาดหุ้น เพื่อลดความกังวลต่อการเข้าลงทุนหุ้นจองในช่วงนี้  และมองว่า แม้บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3-4 จะมีความผันผวนรุนแรง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการนำบริษัทเข้าระดมทุน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวมองว่า PIMO จะสามารถปรับตัวขึ้นเหนือราคา IPO และจะมีการซื้อขายที่คึกคัก เนื่องจากมีจำนวนหุ้น IPO 120 ล้านหุ้น ถือเป็นจำนวนที่มีสภาพคล่องที่เพียงพอกับความต้องการในตลาดหุ้น จึงน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

 

ส่วนบจ.ที่มีจำนวนหุ้นเสนอขาย IPO น้อยจะถูกดันราคาได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ DAII ซึ่งมีบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ได้เสนอขาย IPO ด้วยจำนวนหุ้นเพียง 30 ล้านหุ้น ที่ราคา 4 บาท โดยในวันแรกที่เข้าซื้อขาย ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นถึง 200% แต่การซื้อขายในวันต่อมาก็ถูกแรงเทขายออกมา 4 วันต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมองว่า การเสนอขายหุ้น IPO ที่มีจำนวนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น ช่วยให้หุ้นตัวนั้นๆ มีความน่าสนใจมากกว่าหุ้นที่มีขนาดเกิน 150 ล้านหุ้น ซึ่งเห็นได้จากกรณี บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE โดยมีบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีการเสนอขาย IPO จำนวน 150 หุ้น ที่ราคาขายหุ้นละ 2.10 บาท โดยในวันแรกราคา WICE ปรับตัวขึ้นเหนือ IPO 82.86%

 

*อนึ่ง ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button