อวดโฉม! 24 หุ้น SET โชว์งบฯปี 62 กำไรโตทะลักเกิน 100%

อวดโฉม! 24 หุ้น SET โชว์งบฯปี 62 กำไรโตทะลักเกิน100%


บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET) ประกาศงบการเงินปี 2562 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยภาพรวมส่วนใหญ่กำไรชะลอตัวลง เนื่องจากธุรกิจปี 2562 ได้รับผลกระทบสงครามการค้าจีน-สหรัฐ  และราคาน้ำมันในตลาดโลกและค่าการกลั่นไม่สดใส อีกทั้งเงินบาทแข็งค่า และการเมืองในประเทศไม่นิ่ง ส่งผลกระทบให้งบประมาณภาครัฐล่าช้า

โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้หลายกลุ่มธุรกิจผลกำไรออกมาน่าผิดหวัง อาทิ กลุ่มอสังหาฯ, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มมีเดีย และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตามเพื่อให้เห็นภาพรวมผลการดำเนินงานชัดเจนมากขึ้นทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET)  ปี 2562  มานำเสนอ โดยครั้งนี้คัดเลือกเฉพาะกลุ่มบริษัทที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเกิน 100%  ดังตารางประกอบดังนี้

อันดับ 1 ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT แจ้งผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.62 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 1,501.60  ล้านบาท โต 12,858.79% จากปีก่อนอยู่ที่ 6.90 ล้านบาท

โดยสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญร้อยละ 48.7 ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงกระบวนการเพื่อเพิ่มคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานมีจำนวน 14.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 472.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.5 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2561

เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 160.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.5 จากการขยายตัวของสินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจเช่าซื้อและรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 362.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 20 เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยและค่าธรรมเนียมจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 63 เติบโต 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,501.6 ล้านบาท รวมถึงคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 14,032 ล้านบาท จากสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 11.8% จากปีก่อน

รวมถึงตั้งเป้าควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้ให้ลดลงเหลือ 5.4% จากปีก่อนคิดตามมาตรฐานบัญชีใหม่ฯ อยู่ที่ 5.7% เป็นผลมาจากการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ได้ดีขึ้นต่อเนื่อง

 

อันดับ 2 บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP แจ้งผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.62 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 132.51 ล้านบาท โต 4,188.29 % จากปีก่อนอยู่ที่3.09  ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายและให้บริการเพิ่มขึ้น

โดยความสำเร็จของผลประกอบการในปี 2562 เนื่องจากยอดการสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าหลักที่ชะลอตัวในปี 2561 เริ่มกลับมาในปี 2562 รวมถึง การขยายไปยังธุรกิจใหม่ที่เป็นโอกาสตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อีกทั้งบริษัทฯ รับรู้รายได้พิเศษจากการขายสินทรัพย์อินโฟเซฟในไตรมาส 2/2562 ส่งผลให้กำไรปรับเพิ่มขึ้นสูงเมื่อเทียบกับปี 2561

โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2563 เติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วงต้นปีวางเป้าไว้ที่ 10 – 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เนื่องจาก ผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม จึงอาจพิจารณาเป้าหมายการเติบโตอีกครั้ง

 

อันดับ 3 บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMYแจ้งผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.62 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 341.87 ล้านบาท โต  2,114.91 % จากปีก่อนอยู่ที่ 15.43  ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนขายและบริการปี 2562 อยู่ที่4,025.04 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 อยู่ที่  4,364.70 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขาย จัดจำหน่ายและการบริการปี 2562 อยู่ที่ 480.17 ล้านบาท จากปี 2561 อยู่ที่ 589,968.56 ล้านบาท และประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.20 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 18 มี.ค. 2563 จ่ายปันผล 22 พ.ค. 2563

 

อันดับ 4 บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJ แจ้งผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.62 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 236.17 ล้านบาท โต 1,213.26% จากปีก่อนอยู่ที่ 17.98 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีอัตราส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายลดลง 2.94% เมื่อเทียบกับรายได้จากการขาย เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบมีราคาปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน

ขณะที่บริษัทมีรายได้อื่นๆเพิ่มขึ้น 27.15 ล้านบาท ซึ่งรายได้อื่นๆมาจากการขายเศษฟิล์ม และรายได้บัตรภาษีเป็นหลัก นอกจากนี้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 120.49 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้มีการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยงสำหรับสัญญาซื้อและขายบางส่วนแล้ว นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายลดลง 14.24 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2562 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562 อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.23 บาทต่อหุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 5 มี.ค.2563 กำหนดจ่ายปันผล 20 พ.ค. 2563

 

อันดับ 5 บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI แจ้งผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค.62 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 407.45 ล้านบาท ต 829.38% จากปีก่อนอยู่ที่ 43.84 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานประจำปี 2562 มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากการขาย 5,334.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อน และมีต้นทุนขาย และต้นทุนในการจัดจำหน่ายลดลง

อย่างไรก็ตามบริษัทลดเป้าหมายรายได้ปี 63 เหลือเติบโต 7% จากเดิมคาดเติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่ชะลอตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 พร้อมกับปรับกลยุทธ์หันมาเน้นช่องทางการขาย Trading Trade (TT) มากขึ้น

โดยวางแผนเพิ่ม Coverage ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ชาเขียวขวดเล็กในช่องทาง TT ในปีนี้อีก 7% จากปีก่อนอยู่ที่ 36% ขณะที่กลุ่มสินค้าเย็นเย็นยังคงสินค้าที่เป็นผู้นำตลาดในช่องทาง TT ซึ่งมี Coverage อยู่ที่ 45% ซึ่งจะยังคงรักษาระดับดังกล่าวต่อไปในปีนี้

ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button