ดักเก็บ OSP โบรกฯมองยอดขายปี 63 โตต่อ 10% ครองตลาดอันดับ 1 เหนียวแน่น
ดักเก็บ OSP โบรกฯมองยอดขายปี 63 โตต่อ 10% ครองตลาดอันดับ 1 เหนียวแน่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นบริษัทที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้เติบโต อย่า บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP โดยนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุว่า ขณะนี้แนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 32.50 บาท จากแผนการธุรกิจที่ดี มีแนวโน้มเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังคงความสามารถในการรักษาความเป็นอันดับ 1 ในตลาดได้อย่างเหนียวแน่น
พร้อมกันนี้ คาดกำไรสำหรับปี 2563 อยู่ที่ 28,172 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน เป็นไปตามที่บริษัทคาดไว้ เนื่องจากมองว่าการเติบโตของเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่วางไว้ในระดับ Low-Single Digit มีความเป็นไปได้สูง ในขณะที่เครื่องดื่ม Functional Drink ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงระดับ Double Digit ด้วยเครื่องดื่ม C-vid ของ OSP ที่เป็นอันดับ 1 ของตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้ทำให้มีแนวโน้มเติบโตในระดับ Double Digit ตามที่บริษัทคาดการณ์มีความเป็นไปได้สูง ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลที่บริษัทคาดไว้ในระดับ Double Digit มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ ด้วยแนวโน้มของผู้บริโภคที่รักษาความสะอาดมากขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส
ส่วนของแนวโน้มในต่างประเทศคาดว่าจะมีการเติบโตในระดับ Double Digit เนื่องจากประเทศเมียนมาร์มีมูลค่าของตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเป็นไปได้ที่ยอดขายจะเพิ่มขึ้นตามแผนที่บริษัทวางไว้ ในด้านของ Gross Profit Margin คาดว่าจะมีการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง
เนื่องจากโรงงานผลิตขวดแก้วในประเทศเมียนมาร์ที่ได้ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมสำหรับเริ่มดำเนินการแล้ว และโครงการ Fit Fast Firm ที่มุ่งเน้นการลดต้นทุนภายในของบริษัทเป็นไปได้ด้วยดี คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ถึง 500-800 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ Gross Profit Margin ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยะ โดยเราคาดว่าจะปรับตัวขึ้นเป็น 36% จาก 34.9% ในปีก่อนหน้า ในด้านของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดว่าจะสามารถรักษาไว้ได้ในระดับไม่เกินตามแผนงาน 22%
อย่างไรก็ดี มีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการในปีนี้ โดย OSP คาดว่าจะมีการเติบโตของยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่ 10% โดยในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังคาดจะเติบโตตามการเติบโตของตลาดในระดับ Low-Single Digit คาดว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนของ Functional Drink มองว่าตลาดยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงด้วยความที่เครื่องดื่ม C-Vit ครองสัดส่วนตลาดไปมากกว่า 30% ทำให้คาดว่ายอดขายในส่วนนี้สามารถโตได้ในระดับ Double Digit ในส่วนของผลิตภัณฑืของใช้ส่วนบุคคลอยู่ในช่วงของการปรับประมานการของบริษัท แต่ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 บริษัทคาดว่าจะสามารถโดตได้ในระดับ Double Digit