SET สัปดาห์นี้ยังผันผวนสูง แนะ CHG,CPALL,CPF หุ้นเด่นมีปัจจัยบวก

Weekly outlook: “SideWay” ต้าน 1267/1280 จุด รับ 1179/11153 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (20-24 เม.ย.63) สัปดาห์นี้คาดตลาดหุ้นไทย ‘Sideway’ ความคืบหน้าของโรค Covid-19 ล่าสุด ผลการทดสอบยา Remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่ผลิตโดยบริษัท Gilead Sciences พบว่ายาดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 ส่งผลให้ตลาดมีความหวังว่าจะผ่านการพัฒนาต่อเนื่อง และช่วยลดความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรค Covid-19

ขณะที่บางประเทศที่ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มชะลอลง อย่างอิตาลี สเปน เยอรมนีเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการ Lockdown แต่เนื่องจากอัตราการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ(บางรัฐ) ญี่ปุ่น และอังกฤษที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ประเทศดังกล่าวยังเดินหน้าใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อ

ทั้งนี้หากมาดูฝั่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแล้วนั้น จะพบว่า การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 เริ่มส่งผลลบต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเดือนมี.ค. ไม่ว่าจะเป็น ยอดค้าปลีก ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และภาคแรงงาน ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ผสานกับรายงาน GDP 1Q20 ของจีน หดตัว -6.8% แย่กว่าคาดการณ์ของตลาดที่ -6.5%

โดยแม้จะเริ่มตัวเลขเศรษฐกิจบางตัว อาทิเช่น ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยอดค้าปลีก และการลงทุนใน fixed asset เริ่มฟื้นตัวขึ้นในเดือนมี.ค. แต่ Nomura ยังคงมองการฟื้นตัวจะช้าเนื่องจากได้รับผลกระทบจากความต้องการภายนอกที่ชะลอแรงประกอบกับความเสี่ยงที่จีนจะเผชิญกับการแพร่ระบาดรอบที่ 2 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ยังคงเป็นแรงกดดันจิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

โดยสำหรับไทย แม้อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายวัน จะต่ำเพียง 1% แต่แนวโน้มเศรษฐกิจทั้งปี 2020 ที่ไม่สดใส ผสานความไม่แน่นอนของมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐฯ ทำให้ยังไม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ และกดดันให้เกิดภาพ Fund Outflows ต่อเนื่อง โดยหากนับตั งแต่ปี 2018 ต่างชาติขายสุทธิ -1.49 หมื่นล้านเหรียญ หรือคิดเป็นราว -2.8% ของมูลค่าตลาด

ซึ่งหากเทียบกับปี 2008 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั้น พบว่า ช่วง ต.ค. 2007-มี.ค. 2009 เงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยราว -4.4%ของมูลค่าตลาด บ่งชี้ว่าเราอาจเห็น Outflow จากนักลงทุนต่างชาติในภาวะวิกฤตอีกราว -1.5-1.8% ของมูลค่าตลาดได้ ทำให้ตลาดยังขาดแรงขับเคลื่อนจากฝั่ง Fund Flows มาสนับสนุนการฟื้นตัว ส่วนปัจจัยอื่นๆ กลุ่มธนาคารจะทยอยรายงานผลประกอบการ 2Q20

ในสัปดาห์นี้ซึ่ง CNS คาดกำไรสุทธิ (ไม่รวม TCAP)ที่ 3.7 หมื่นลบ. -15%y-y -2%q-q จากทั้งรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงผสานกับการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มธนาคาร

กลยุทธ์การลงทุน: ความผันผวนยังสูง ประกอบกับเข้าสู่ช่วงการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคาร ประเมินตลาดจะเป็นช่วงปรับทิศทางจาก Momentum และราคาเชิงพื้นฐาน ให้สมดุลมากขึ้น ให้น้ำหนัก SET ใกล้จุดพักฐาน แนะนำใช้ระดับ 1200 จุด กรณีหลุดเป็นจุดลดการเก็งกำไร

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ CHG, CPALL, CPF ส่วนสัปดาห์ก่อน ADVANC, CPALL ให้ผลตอบแทน 1.43% ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 0.91%

1) CHG(TP2.68) : คาดผลประกอบการไตรมาส 1 ยังเติบโต yy qq

2) CPALL(TP73) : The Laggard ในกลุ่ม SET50

3) CPF(TP25.3) : กำไรยังเติบโตดีในช่วง 1Q20