โบรกฯ เชียร์ซื้อ CRC ลุ้นรัฐผ่อนปรนล็อกดาวน์ หลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
โบรกฯ เชียร์ซื้อ CRC ลุ้นรัฐผ่อนปรนล็อกดาวน์ หลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC โดยนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CRC โดยราคาเป้าหมาย IAA Consensus อยู่ที่ 38 บาท/หุ้น ได้ Sentiment บวกจากข่าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย , สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และกระทรวงสาธารณสุข เตรียมหารือเพื่อผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เบื้องต้นคาดกลุ่มธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า และกลุ่มร้านอาหารถูกจัดเป็นกลุ่มสีเขียวมีสิทธิได้กลับมาเปิดดำเนินการก่อน หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้สั่งปิดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สำหรับปัจจัยภายในประเทศคาดว่าในระยะช่วงต้นเดือน พ.ค. เป็นต้นไปน่าจะเริ่มเห็นการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในหลายๆ พื้นที่ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศเฉลี่ยอยู่ในระดับราว 30 ราย/วัน ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า
โดยล่าสุด ศบค. เตรียมพิจารณาข้อเสนอผ่อนคลายมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ ร้านตัดผม และการเปิดห้างสรรพสินค้า คาดชัดเจนสัปดาห์นี้ มองปัจจัยดังกล่าวจะกลับมาเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับปัจจัยกดดันจากมาตรการภาครัฐในช่วงก่อนหน้า เช่น AWC, CPN, CRC, GLOBAL, HMPRO และ SF
ดังนั้นแนะนำทยอยซื้อสะสมหุ้นใน “กลุ่มค้าปลีก-ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า” ที่จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ของภาครัฐฯ ตามสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศที่ดีขึ้น AWC, CPN, CRC, GLOBAL, HMPRO และ SF
ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่และโมเดิร์นเทรด ลดราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยใช้ชื่อภายใต้ “โครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน”
โดยลดราคาสินค้าใน 6 หมวด 72 รายการ สำหรับเบื้องต้น 6 หมวด ประกอบด้วย 1.หมวดอาหารและเครื่องดื่ม 2.อาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง 3.ซอสปรุงรส 4.ของใช้ในชีวิตประจำวัน 5.ของใช้ชำระร่างกาย และ 6.ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ซึ่งที่ลดราคาขายปลีกตั้งแต่ 5-58% เริ่มแล้วจาก 16 เม.ย. ถึง วันที่ 30 มิ.ย. 2020 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน สำหรับบริษัทผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่เข้าร่วมทั้งหมด 14 บริษัท เช่น SPC, TU, CPF, OSP, CRC, CPALL
ทั้งนี้มีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยกับข่าวข้างต้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภค ในช่วงไตรมาส 2/63 โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์เรียงลำดับจากรายได้ในประเทศและสัดส่วนสินค้าจำเป็นจากมากไปน้อย ได้แก่ CPF (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท), CPALL (ซื้อ/เป้า 91.00 บาท), TU (ซื้อ/เป้า 16.00 บาท), OSP (ซื้อ/เป้า 50.00 บาท) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอาหาร
ส่วนที่รองลงมา คือกลุ่มของใช้จำเป็น ได้แก่ SPC (NR), CRC (ซื้อ/เป้า 33.00 บาท) แม้มองว่าจะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อ margin แต่เชื่อว่าจะมี volume ที่เพิ่มขึ้นมาชดเชย ทั้งนี้ คงให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่ม “Food” และ “Commerce” ที่เท่ากับตลาด