3 หุ้นท่องเที่ยว Cash flow แกร่งสุด-ราคารูดเกินพื้นฐาน โบรกฯแนะลงทุน ชี้โอกาสฟื้นสูง!
3 หุ้นท่องเที่ยว Cash flow แกร่งสุด-ราคารูดเกินพื้นฐาน โบรกฯแนะลงทุน ชี้โอกาสฟื้นสูง!
จากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาดหนักทั่วโลกส่งผลให้ธุรกิจทุกด้านรับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวในไทยที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในเดือน มี.ค. หดตัวแรงถึง -76% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในเดือนเม.ย.จะหดตัวลงแรงมากกว่านี้
ดังนั้นเพื่อให้เห็นทิศทางการลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยวทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลมานำเสนอนักลงทุนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน ซึ่งอาศัยบทวิเคราะห์จากบล.เคทีบี (ประเทศไทย) โดยระบุว่า กลุ่มท่องเที่ยว(Tourism) ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยวเป็น “เท่ากับตลาด” โดยได้ศึกษาเรื่อง Cash flow stress test ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีการปิดโรงแรม พบว่า CENTEL จะเป็นหุ้นที่มี Cash flow ที่แข็งแกร่งที่สุด รองลงมาเป็น ERW และ MINT ขณะเดียวกันราคาหุ้นยังมีอัพไซด์สูงโดยเฉพาะ MINT ซึ่งมีมากถึง 55.3% ดังข้อมูลประกอบ
โดยตามข้อมูลจากกระทรวงท่องเที่ยวฯ ระบุ จำนวนนักท่องเที่ยวรวมเดือน มี.ค. 2563 หดแรงถึง 76% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจาก COVID-19 ข้อมูลจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาระบุจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน มี.ค.2563 อยู่ที่ 8 แสนคน ปรับตัวลดลงถึง -76% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยนักท่องเที่ยวหลักๆอย่างจีนหดตัวถึง -94% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับเดือนก่อนที่ -85% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรัสเซีย -40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะผลจาก COVID-19 ทั้งนี้ ภาพรวมในไตรมาส1/2563 มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 6.7 ล้านคน ลดลงถึง -38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากผลกระทบดังกล่าวได้ปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2563E ลงเหลือ 15 ล้านคน จาก 30 ล้านคน และคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มฯปีนี้จะเห็นเป็นขาดทุนสุทธิ จำนวนนักท่องเที่ยวรวมในไตรมาส1/2563 ที่ออกมาคิดเป็นเพียง 22% จากประมาณการทั้งปีที่ 30 ล้านคน ทำให้มีการปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2563E ลงเหลือ 15 ล้านคน และปี 2564 คาดว่าจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ 20 ล้านคน อ้างอิงจากการคาดการณ์ของ ธปท.
ขณะที่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือน เม.ย. 2563 จะหดตัวลงต่อ อ้างอิงจากตัวเลขผู้โดยสารของ AOT ในช่วงวันที่ 1-18 เม.ย. หดตัวลงถึง -99% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีการปิดสนามบินจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. แต่คาดว่าเดือน เม.ย. จะเป็นจุดต่ำสุดของปีหากไม่มีการขยายเวลาในการปิดสนามบินต่อ
ทั้งนี้ จากการที่ปรับจำนวนนักท่องเที่ยวลงทำให้กำลังมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มท่องเที่ยวลง เบื้องต้นคาดว่าปี 2563E จะเห็นเป็นขาดทุนสุทธิทั้ง CENTEL, ERW และ MINT เพราะผลกระทบจาก COVID-19 มากกว่าที่คาดไว้
โดยภาพรวมของกลุ่มท่องเที่ยวซื้อขายที่ระดับ -0.25SD below 5-yr average PER ขณะที่หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง ERW, CENTEL และ MINT ลงมาซื้อขายที่ระดับ -2SD, -1.5SD และ -0.5SD below 5-yr average PE
ขณะที่เชื่อว่าราคาหุ้นในกลุ่มฯมีการปรับตัวลดลงมารับผลกระทบจาก COVID-19 ไปมากแล้ว แต่ยังไม่แนะนำให้รีบเข้าลงทุนในกลุ่มฯนี้ เพราะเชื่อว่าจะเป็น sector สุดท้ายที่จะเห็นการฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ดีได้ศึกษาเรื่อง Cash flow stress test ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีการปิดโรงแรม พบว่า CENTEL จะเป็นหุ้นที่มี Cash flow ที่แข็งแกร่งที่สุด รองลงมาเป็น ERW และ MINT โดยยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยวเป็น “เท่ากับตลาด” ไม่มี Top pick
ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนมี.ค.2563 ว่า ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.19 แสนคน ลดลง 2.65 ล้านคน หรือลดลง 76.41% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.47 ล้านคน ส่วนรายได้เข้าประเทศอยู่ที่ 3.95 หมื่นล้านบาท ลดลง 1.36 แสนล้านบาท หรือลดลง 77.58% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่มีรายได้ฯ 1.76 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศสำคัญๆ พบว่า นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย มีจำนวนเหลือเพียง 5.68 หมื่นคน ลดลง 9.28 แสนคน หรือลดลง 94.23% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่มีนักท่องเที่ยวจีน 9.85 แสนคน ส่วนนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรปอยู่ที่ 3.51 แสนคน ลดลง 3.68 แสนคน หรือลดลง 51.20% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่มีนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรป 7.19 แสนคน
ขณะที่นักท่องเที่ยวมาเลเซียอยู่ที่ 9.48 หมื่นคน ลดลง 2.23 แสนคน หรือลดลง 70.24% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย 3.18 แสนคน ,นักท่องเที่ยวอินเดียอยู่ที่ 1.54 หมื่นคน ลดลง 1.47 แสนคน หรือลดลง 90.5% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่มีนักท่องเที่ยวอินเดีย 1.63 แสนคน และนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.64 หมื่นคน ลดลง 1.31 แสนคน หรือลดลง 83.24% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น 1.57 แสนคน
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.2563) อยู่ที่ 6.69 ล้านคน ลดลง 4.1 ล้านคน หรือลดลง 38.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10.79 ล้านคน และสร้างรายได้เข้าประเทศ 3.32 แสนล้านบาท ลดลง 2.26 แสนล้านบาท หรือลดลง 40.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่สร้างรายได้ 5.56 แสนล้านบาท