ดักเก็บ PRM ก่อน XD ปันผล 0.14 บ. ฟากโบรกฯฟันธงกำไรไตรมาส 1 สดใส เคาะเป้า 7.70 บ.
ดักเก็บ PRM ก่อน XD ปันผล 0.14 บ. ฟากโบรกฯฟันธงกำไรไตรมาส 1 สดใส เคาะเป้า 7.70 บ.
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวมรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM โดยเตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 30 เม.ย.2563 หลังบริษัทอนุมัติจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2562 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562 เป็นเงินสดในอัตรา 0.14 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 พ.ค.2563
ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PRM ราคาเป้าหมาย 7.70 บาท/หุ้น โดยยังคงมุมมองที่เป็นบวกต่อการดำเนินงานของ PRM โดยล่าสุดได้จัด Group Conference call กับทางผู้บริหารของ PRM โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1) ธุรกิจ FSU อยู่ในสถานะที่ดีจากความต้องการใช้เรือที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และรับรู้การปรับขึ้นอัตราค่าเช่าเรือ 5 ลำในไตรมาส 2/63 เป็นต้นไป 2) เรือขนส่งในประเทศได้รับผลกระทบบางส่วนจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (คิดเป็น 20%ของปริมาณการขนส่ง) ที่ลดลง บริษัทบริหารโดยการเพิ่มเส้นทางใหม่ และหาฐานลูกค้าใหม่ในเส้นทางภาคกลาง
รวมทั้ง 3) ยังคงแผนการขยายการลงทุน โดยมีแผนเพิ่มเรือ FSU 1 ลำซึ่งอยู่ระหว่างการหาเรือที่เหมาะสม และเพิ่มเรือขนส่งระหว่างประเทศ 3 ลำ และในประเทศ 4 ลำ (สร้างใหม่ + ทดแทนเรือเดิม) และ 4) คาดกำไรจากการดำเนินงานหลักแข็งแกร่ง YoY และ QoQ ใน 1Q20F โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตใน FSU ที่เข้ามาช่วยชดเชยผลกระทบจาก COVID-19 ได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ บริษัทปรับอัตราค่าเช่าเรือ FSU ขึ้น 20% จำนวน 3 ลำในเดือนมีนาคม และ 2 ลำในเดือนเมษายน จากความต้องการใช้เรือที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีแผนปรับขึ้นค่าเช่าเรือที่เหลือในกลางปีนี้ ส่งผลให้จะเห็นผลจากอัตราค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นใน 2Q20 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ จากสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลกปัจจุบันที่ปริมาณการผลิตส่วนเกินสูงกว่าความต้องการใช้น้ำมันจากผลกระทบ COVID-19 และตลาดน้ำมันแบบ Contango ทำให้มีความต้องการกักเก็บน้ำมันทางเรือเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากรายงานของ IEA การเก็บน้ำมันในเรือ (floating storage) ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 22.9 mb (0.7 mb/d) มาที่ 103.1 mb และจากยังมีความต้องการจากลูกค้า บริษัทอยู่ระหว่างการจัดหาเรือเพื่อเพิ่มกองเรือ ซึ่งบริษัทได้รับใบอนุญาตสำหรับที่จอดเรือเพิ่มแล้ว 1 ลำ
ขณะที่ธุรกิจขนส่งในประเทศได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 จากน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ของปริมาณการขนส่งทั้งหมดตามการยกเลิกเที่ยวบิน โดยเฉพาะอย่าวยิ่งในเดือนเมษายน ทางบริษัทบริหารโดยการเพิ่มเส้นทางและหาฐานลูกค้าใหม่ในเส้นทางภาคกลาง เพื่อรักษาระดับการใช้เรือไว้ที่ 80-90%
ทั้งนี้ คาดกำไรจากการดำเนินงานของ PRM ในไตรมาส 1/63 จะเติบโต 31% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 19% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน มาที่ 297 ล้านบาท ซึ่งแรงหนุนหลักมาจากธุรกิจ FSU ตามจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้นจาก 5 ลำมาเป็น 8 ลำ และอัตราการใช้เรือที่สูงต่อเนื่อง 100% ซึ่งมาช่วยชดเชยผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่มีต่อธุรกิจเรือขนส่งในประเทศ จากปริมาณการขนส่งน้ำมันที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1/63 บริษัทจะมีบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเนื่องจากมีเงินกู้จากต่างประเทศ ซึ่งคาดไว้ที่ 85 ล้านบาท ดังนั้น คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 212 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบจากปีก่อน และลดลง 21% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน