RBF ประกาศงบฯ พรุ่งนี้ ลุ้นไตรมาส 1 โตแจ่ม-ตัวเต็งขึ้น SET100

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวมรวบบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยปิดตลาดวานนี้ (13 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 5.35 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 7% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2111.42 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2562 ด้วยราคา IPO ที่ระดับ 3.30 บาท/หุ้น

ทั้งนี้คาดว่ามีแรงซื้อเข้ามาเพื่อเก็งผลประกอบการไตรมาส 1/63 ที่คาดว่าประกาศวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) และจะมีกำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

โดยนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี ระบุว่า  กลุ่มหุ้นที่ทรีนีตี้คำนวณว่ามีโอกาสถูกคัดเลือกเข้าสู่การคำนวณดัชนี SET50 ในรอบถัดไป (กรกฎาคม–ธันวาคม 2563) ได้แก่หุ้น บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) และ บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP)

สำหรับหุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าสู่ดัชนี SET100 ได้แก่ บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE, บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO, บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI, บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF, บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB (ทุกตัวยกเว้น SISB  มีความมั่นใจ 99%)

ขณะที่หุ้นที่มีแนวโน้มถูกตัดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK, บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG, บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI, บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI, บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC, บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL (ทุกตัวยกเว้น SGP, STPI มีความมั่นใจ 99%)

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” RBF ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท/หุ้น มอง RBF เป็นหุ้นเด่นเดือน พ.ค.2563 คาดงบจะออกมาดี อีกทั้งมองว่าได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูงจากภาวะเศรษฐกิจหดตัวแรง

โดยคาดผลประกอบการไตรมาส 1/63 ที่ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน คาดยอดขายเพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายที่หายไป และคาดรายได้ 775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 1.5% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน หนุนโดยเครื่องแต่งสีและกลิ่น และยังได้ปัจจัยบวกจากการกักตุนสินค้าของผู้บริโภคทั้งอาหารแห้งและอาหารแช่แข็งในเดือน มี.ค. ด้านรายได้ของโรงแรมคาดลดลง 11% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 25 ล้านบาท มีอัตรากำไรรวมที่ 36.8% เมื่อเทียบจากปีก่อน และด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่คงที่ แต่ดอกเบี้ยหายไปจากการชำระคืนด้วยเงิน IPO ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 13.4% จากเดิมที่ 12.2% ในช่วงไตรมาส 1/62

ด้าน นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RBF เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาด และการเฝ้าระวังของไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และหลายจังหวัดในประเทศ โดยในขณะนี้หลายทวีปในโลกเริ่มมีการใช้มาตรการปิดประเทศหรือ Lockdown แล้ว

ทั้งนี้ จากมาตรการ Lockdown ดังกล่าว รวมทั้งประเทศผู้ผลิตโปรตีนพื้นฐานรายใหญ่ของโลกได้มีการปิดโรงงาน หลังจากพนักงานมีการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้มีออเดอร์เข้ามาในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ลูกค้าของบริษัทมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ออเดอร์สูงขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวเข้ามาอีกด้วย

ขณะเดียวกัน จากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ส่งผลประชาชนเริ่มมีการปรับพฤติกรรมจนเกิดมาตรฐานใหม่ (New Normal) ทำให้มีการสั่งอาหารแบบ delivery มากขึ้น ทางบริษัทจึงต้องวางแผนและปรับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับ New Normal เพื่อสร้างผลการดำเนินงานในอนาคตให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 63 จะเติบโต 10-12% จากปี 62 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,881.99 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการขยายกำลังการผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนออเดอร์ที่สูงขึ้น