SET สัปดาห์นี้ ‘Sideway’ รับความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนมากขึ้น-ชู BH-BDMS-SPA หุ้นเด่น
SET สัปดาห์นี้ ‘Sideway’ รับความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนมากขึ้น-ชู BH-BDMS-SPA หุ้นเด่น
Weekly outlook: “Sideway” ต้าน 1358/1370 จุด รับ 1323/1313 จุด
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (1-5 มิ.ย.63) สัปดาห์นี้คาดตลาดหุ้นไทย ‘Sideway’ ปัจจัยที่ยังคงเป็นแรงกดดันต่อตลาด คือความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่เพิ่มขึ้น หลัง NPC จีนมีมติผ่านร่างกฏหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งจะให้อำนาจจีนในการจัดการกับการกระทำที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ
โดยรวมถึงการประท้วง การก่อการร้ายต่างๆ โดยการผ่านร่างดังกล่าวสร้างความไม่พอใจต่อสหรัฐฯ เนื่องจากสหรัฐฯมองว่าฮ่องกงไม่ได้มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองจากจีนอีกต่อไป ซึ่งอาจกระทบต่อสถานะพิเศษของฮ่องกง โดยปัจจุบันฮ่องกงได้รับการยกเว้นภาษีต่อสินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ปธน. Trump เผยจะประกาศนโยบายฉบับใหม่ของสหรัฐฯที่จะดำเนินการกับจีน ทำให้อุณหภูมิทางการเมืองสูงขึ้น อาจนำไปสู่การใช้มาตรการทางค้าในการตอบโต้ได้ทำให้จิตวิทยาการลงทุนได้รับแรงกดดัน ส่วนปัจจัยภายใน การผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เฟส 3 มีรายละเอียดดังนี้
1.สามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้
2.ห้างสรรพสินค้า เปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 21.00 น.
3.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม จำกัดพื้นที่รวมไม่เกิน 2 หมื่นตรม. และเปิดถึง 21.00 น.
4.ร้านตัดผม สามารถทำสีผมได้ โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม.
5.เปิดสนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง
6.เปิดคลินิกเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง สามารถทำที่ใบหน้าได้
7.เปิดสปา และนวดแผนไทย นวดฝ่ าเท้า แต่ยังต้องงดการอบตัว อบสมุนไพร อบไอน้ำแบบรวม และนวดใบหน้า
8.สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส จำกัดจำนวนผู้เล่นแบบรวมกลุ่ม
9.เปิดโรงภาพยนตร์ แต่ต้องมีผู้เข้าชมไม่เกิน 200 คน และนั่งเว้นระยะห่าง
10.เปิดสถานที่สันทนาการ เช่น สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สถาบันลีลาศสระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำและสวนสัตว์
นอกจากนี้ มีการปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23:00-03:00 น. ซึ่งการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ใกล้จะกลับมาดำเนินได้เต็มรูปแบบ เพิ่มความคาดหวังบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไปได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือ การประชุม ECB 4 มิ.ย. Nomura คาดคงดอกเบี้ย depo rate ที่ -0.50% แต่จะประกาศว่าจะเพิ่มวงเงิน PPEP จาก €750bn อีก
อย่างน้อย €250bn (เป็นไปได้ว่าจะเพิ่มอีก €500bn) ทำให้วงเงิน PPEP จะอยู่ที่ €1-1.25 trn (8.5% ถึง 10.5% ของ GDP ของ euro area)
กลยุทธ์การลงทุน: ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนกดดันจิตวิทยาการลงทุน ประเมินตลาดเป็น Sideway ขณะที่วางจุดกระชับพอร์ตที่ 1317/1300/1280 จุด ส่วนพอร์ตลงทุนเชิง Tactical แนะนำลดน้ำหนักหุ้นเหลือเพียง 30% และกลยุทธ์ระยะยาวที่เหมาะสมตอนนี้คือ DCA ตั้งรับ Sustainable Business สม่ำเสมอทุกๆ เดือน แนะนำ ADVANC, AOT,
CPALL, CPF, BEM, BDMS, HMPRO, KTC, TASCO
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ BH, BDMS, SPA ส่วนสัปดาห์ก่อน ADVANC, BAM, BEM ให้ผลตอบแทน 2.77แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 2.98 %
1) BH(TP118) : 2H20 ฟื้นตัวจากการทยอยปลดล็อคการเดินทางระหว่างประเทศ
2) BDMS(TP19.7) : ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่ Laggard หุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่น
3) SPA(Trad): รัฐคลาย Lockdown เฟส 3 ให้สปากลับมาเปิดได้