เก็บ 8 หุ้นแกร่งเป้า “Window Dressing” สถิติย้อนหลัง 10 ปี ฟาดผลตอบแทนอื้อ!
เก็บ 8 หุ้นแกร่งเป้า “Window Dressing” สถิติย้อนหลัง 10 ปี ฟาดผลตอบแทนอื้อ!
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลจากบทวิเคราะห์ ที่แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงภววะตลาดหุ้นผันผวน โดยพบว่า ประเด็นที่อาจมีส่วนช่วยหนุนตลาดในช่วงนี้น่าจะเป็นเรื่อง Window Dressing ซึ่งประเมินจากสภาพแวดล้อมแล้วมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย.
โดยหุ้นที่พบว่าสร้างผลตอบแทนโดดเด่นอย่างเช่น INTUCH, BJC, BDMS, GPSC, ADVANC เป็นต้น โดยภาพรวมคาด SET Index ผันผวนอยู่ในกรอบ 1,340-1,370 จุด ส่วน Top Pick เลือก INTUCH และ INSET
ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มิ.ย.2563) ว่า ภาวะปั่นป่วนของตลาดหุ้นทั่วโลกเช้าวานนี้ เป็นมาตรวัดที่บอกเราว่า Trade War เป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อเนื่อง ส่วนวันนี้มีเรื่องที่น่าสนในภาพรวมเศรษฐกิจคือ IMF จะมีการเปิดเผยรายงานคาดการณ์ GDP Growth ของโลก ซึ่งคาดหมายว่าจะเห็นการปรับลดประมาณการลงจากเดิมที่คาดว่าจะ -3% ในปี 2563 ขณะที่ในประเทศมีการประชุม กนง. ซึ่งคาดว่าจะเห็นการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% แต่เปิดโอกาสที่จะลดลงได้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี พร้อมกันนี้น่าจะมีการปรับลดประมาณการ GDP Growth ของบ้านเราลงจากเดิมคาด -5.3% ในปี 2563 ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าวน่าจะมีน้ำหนักในเชิงลบต่อ SET Index เล็กน้อย
ส่วนประเด็นที่อาจมีส่วนช่วยหนุนตลาดในช่วงนี้น่าจะเป็นเรื่อง Window Dressing ซึ่งประเมินจากสภาพแวดล้อมแล้วมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย. โดยหุ้นที่พบว่าสร้างผลตอบแทนโดดเด่นอย่างเช่น INTUCH, BJC, BDMS, GPSC, ADVANC เป็นต้น โดยภาพรวมคาด SET Index ผันผวนอยู่ในกรอบ 1,340-1,370 จุด วันนี้ไม่มีการปรับพอร์ตจำลอง ส่วน Top Pick เลือก INTUCH และ INSET
ฝากความหวัง Window Dressing ช่วยพยุงตลาด ชอบหุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูง INTUCH RATCH, ADVANC
ทั้งนี้แม้ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยจะซื้อขายบน P/E ที่สูงกว่าในอดีตมาก และยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยรอบด้านทำให้อยู่เกิดความผันผวน อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือก่อนสิ้นไตรมาสที่ 2 มักเกิดการทำ Window Dressing ของนักลงทุนสถาบันฯ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความหวังที่จะช่วยพยุงและลดความผันผวนของตลาดในช่วงที่เหลือของเดือน มิ.ย. โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่า โอกาสเกิด Window Dressing ในรอบนี้อยู่ 3 ปัจจัยประกอบด้วย
- เดือน มิ.ย. มักเป็นเดือนที่สถาบันซื้อสุทธิหุ้นไทยสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของปี ซื้อสุทธิเฉลี่ย 8.9 พันล้านบาท (รองจากเดือน ธ.ค. ซื้อสุทธิเฉลี่ย 1.4 หมื่นล้านบาท) แต่หากนับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. 63 ถึงปัจจุบัน พบว่า สถาบันฯ ยังขายสุทธิหุ้นไทย 1.82 พันล้านบาท สวนทางกับสถิติในอดีตอยู่ ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่แรงซื้อของสถาบันฯจะกลับเข้ามาบ้างในช่วงโค้งสุดท้ายของเดือน
- กองทุน SSFX ที่ใกล้จะครบกำหนดอายุในการซื้อเพื่อรับสิทธิในการลดหย่อนภาษีสิ้นเดือนนี้ ปีนี้พิเศษกว่าปีอื่นๆ ตรงที่อาจมีแรงซื้อจากกองทุน SSFX ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นเดือนเข้ามาช่วยหนุนตลาดอีกแรง โดยช่วงที่ผ่านมามีแรงซื้อกองทุน SSFX จากนักลงทุนเพียง 3.6 พันล้านบาทเท่านั้น
- หุ้นขนาดใหญ่มีโอกาสได้รับความสนใจมากขึ้น สะท้อนจากสัดส่วนระหว่างดัชนีหุ้นเล็ก SSET Index กับ SET Index (SSET/SET) ที่ขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบปี และสูงกว่าระดับ 2SD แสดงว่าล่าสุด SSET Index Outperform กว่า SET Index มากเกินกว่าปกติ แต่เป็นที่สังเกตว่าในอดีตทุกๆครั้งที่ดัชนีดังกล่าวอยู่สูงกว่า 2SD ใน 4 รอบที่ผ่านมา หุ้นขนาดเล็กอย่าง SSET Index เริ่มกลับมา Underperform หรือน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่
ทั้ง 3 ปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปได้สูงที่จะเกิดการทำ Window Dressing กับหุ้นขนาดใหญ่ที่กองทุนนิยมสะสม
ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงทำการค้นหาว่า เป้าหมายหุ้นถูกทำ Window Dressing จากหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่งที่มัก Outperform ตลาดได้ดีในช่วง 1 สัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นเดือน มิ.ย. ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า มีหุ้นขนาดใหญ่น่าสนใจลงทุนที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นกว่าตลาด 8 บริษัท คือ BJC ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.2%, GPSC 3.1%, ADVANC 2.7%, BDMS 2.5%, INTUCH 2.2%, CPF1.7% , RATCH 1.2% และ CPALL 1.1%
Top picks หุ้นเด่น Window Dressing Play คัดเลือกเฉพาะหุ้นปันผลสูงจากหุ้นที่คัดกรองมาทั้งหมด 8 บริษัท คือ INTUCH, RATCH และ ADVANC คาดหวังปันผลต่อปีได้สูงถึง 4%, 3.7% และ 3.4% ตามลำดับ ซึ่งเหมาะที่จะลงทุนในยามที่ตลาดยังมีความไม่แน่ไม่นอนสูง
*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน