โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” TVO เคาะเป้าใหม่ 29.75 บ.-อัพกำไรปกติเพิ่มแตะ 1.7 พันลบ

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำหุ้นที่น่าสนใจลงทุนวันนี้ คือ หุ้นบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO โดยกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายมาที่ 29.75 บาทต่อหุ้น จากเดิม 28.50 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยปรับกำไรปกติปี 2563 ขึ้น 4% มาอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท  เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปีก่อน โดยช่วงครึ่งแรกของปีนี้ TVO จะได้รับผลดีจากการบริโภคน้ำมันพืชที่สูงขึ้นจากภาคครัวเรือนเพราะ COVID-19

ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปีจะได้ประโยชน์จากความต้องการกากถั่วเหลืองที่ฟื้นตัวขึ้นจากการเลี้ยงปศุสัตว์กลับมาเพราะแรงจูงใจที่ราคาหมู ไก่ปรับตัวขึ้น

ส่วนราคาหุ้น TVO ปรับตัวขึ้น 25% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นโดยปัจจุบัน TVO เทรดที่ 2563 PER ที่ 12.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 14.0 เท่า

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจับมีมุมมองเชิงวกจาก  Conference call  ใน 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้

1) ธุรกิจกากถั่วเหลือง (คิดเป็นประมาณ 60% ของรายได้รวม): ราคากากถั่วและถั่วเหลืองมีแนวโน้มสูงในปีนี้ จาก 1.1) อุปทานที่ลดลงจากภาวะภัยแล้งใน Argentina และแม่น้ำสายหลักคือ Parana มีระดับน้ำลดลงเป็นระยะเวลานานต่ำสุดในรอบ 10 ปี และ 1.2) ความต้องการกากถั่วเหลืองจากจีนเพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่จีนเพิ่มใบอนุญาตส่งออกไก่ให้แก่ผู้ประกอบการไทยอีก 8 โรงงานเป็น 22 โรงงาน คาดจะส่งผลดีต่อความต้องการอาหารสัตว์ TVO จะได้ประโยชน์เพราะกากถั่วเหลืองเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงไก่

2) ธุรกิจน้ำมันถั่วเหลือง (คิดเป็น  40% ของรายได้รวม): แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/63 ยังดีจากปัจจัยดังนี้

2.1) ความต้องการใช้น้ำมันถั่วเหลืองเพื่อการบริโภคภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นช่วง Lockdown period จาก COVID-19 เพราะผู้บริโภคอยู่บ้านมากขึ้นและใช้น้ำมันถั่วเหลืองซึ่งมีคุณภาพสูงกว่าน้ำมันอื่นๆในการปรุงอาหารด้วยตนเอง และ 2.2) ราคาน้ำมันถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น (ปัจจุบันอยู่ที่ 43 บาทต่อกก. จาก 39 บาทต่อกก. เมื่อไตรมาส 1/61) เนื่องจากการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B10 ในประเทศ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มแพงขึ้น (ปัจจุบันอยู่ที่ 34 บาทต่อกก. จาก 22 บาทต่อกก.เมื่อไตรมาส 1/62)  ส่งผลให้น้ำมันถั่วเหลืองซึ่งเป็นสินค้าทดแทนกัน (substitution)ได้ประโยชน์

ทั้งนี้ เนื่องจากได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่ลดลง จึงทำให้ฝ่ายวิจัยปรับกำไรปกติปี 2563 ขึ้น 4% มาอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน โดยมองว่าบริษัทจะได้รับผลดีเพราะอุปทานจากอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นผู้ผลิตกากรายใหญ่ลดลง ส่งผลให้อาร์เจนติน่าส่งออกได้น้อยลงและ TVO ได้รับผลดีจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้นเพราะการแข่งขันจากกากนำเข้าลดลงจากเดิม

ขณะที่ความต้องการอาหารเริ่มฟื้นตัวขึ้น จึงปรับอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 12% จากเดิมที่ 11.7%  โดยในช่วงครึ่งปีแรกจะได้รับผลดีจากการบริโภคน้ำมันพืชที่สูงขึ้นจากภาคครัวเรือนเพราะ COVID-19 ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังความต้องการน้ำมันพืชจะอ่อนลงแต่บริษัทยังได้ประโยชน์จากความต้องการกากถั่วเหลืองที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากการเลี้ยงปศุสัตว์กลับมาเพราะผู้ผลิตได้รับแรงจูงใจจากราคาหมู ไก่ที่ปรับตัวสูงขึ้น