ลุ้นน้องใหม่ SICT เทรดสนั่น! ยืนเหนือ 1.38 บ. ตั้งเป้า 4 ปีรายได้โต 2 เท่า
ลุ้นน้องใหม่ SICT เทรดสนั่น! ยืนเหนือ 1.38 บ. ตั้งเป้า 4 ปีรายได้โต 2 เท่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (29 ก.ค.) หุ้นสามัญ ของบริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ผู้ประกอบธุรกิจวิจัย พัฒนาไมโครชิพ และว่าจ้างผลิตเพื่อจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า “SIC” โดยแบ่งสินค้าได้ 3 กลุ่มหลัก 1) ไมโครชิพสำหรับระบบกุญแจสำรองอิเล็กทรอนิกส์ของยานยนต์ 2) ไมโครชิพสำหรับระบบลงทะเบียนสัตว์ และ 3) ไมโครชิพสำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่ และระบบการอ่านข้อมูล จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เป็นวันแรก
โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียน และจำนวนหุ้นชำระแล้ว 400 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 200 ล้านบาท ขณะที่เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับประชาชนทั่วไปทั้งหมด ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.38 บาท
ด้าน นางสาวอรุณี พูนทวี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของ SICT เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ไปใช้ในการต่อยอดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก โดยลงทุนในเครื่องมืออุปกรณ์ ลงทุนหรือร่วมลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมส่งเสริมธุรกิจของบริษัท และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2560-2562 มีรายได้รวม เท่ากับ 310.71 ล้านบาท 377.04 ล้านบาท และ 308.80 ล้านบาท ตามลำดับ และอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงกว่า 40% โดยไตรมาสแรกของปี 2563 มีรายได้ที่ 95.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 72.85 ล้านบาท ของงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็น 30.7% และกำไรสุทธิ 15.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 552.7%
ขณะที่ นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ SICT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตธุรกิจไมโครชิพ 2 เท่า ในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี จาก 4 กลุ่มธุรกิจ คือ ไมโครชิพสำหรับระบบกุญแจสำรองอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ ไมโครชิพสำหรับระบบลงทะเบียนสัตว์ ไมโครชิพสำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่ และระบบการอ่านข้อมูล และไมโครชิพอื่นๆ
โดยบริษัทมีโมเดลธุรกิจที่เป็นผู้ออกแบบไมโครชิพและเป็นเจ้าของเทคโนโลยี จากนั้นจะว่าจ้างผู้ผลิตรายอื่นให้ผลิตไมโครชิพ ซึ่งข้อดีของโมเดลแบบนี้ คือ บริษัทจะมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน และไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและบริหารโรงงาน ความเสี่ยงจึงต่ำกว่า โดย SICT จะเน้นถือครองทรัพย์สินทางปัญญา
“เงินระดมทุนที่ได้จาก IPO จะถูกนำมาขยายธุรกิจไมโครชิพให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ SICT มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในตลาด RFID สำหรับปศุสัตว์ในอีก 4 ปีข้างหน้า และเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต”