คัด 7 หุ้นผลงาน Q2 แกร่ง พร้อมรับมือ SET ผันผวน ช่วง “โควิด” ฉุดศก.ชะลอตัว

คัด 7 หุ้นผลงาน Q2 แกร่ง พร้อมรับมือ SET ผันผวน ช่วง “โควิด” ฉุดศก.ชะลอตัว


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในภาวะตลาดผันผวน โดยพบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะแกร่งตัวอยู่ในกรอบ 1,300-1,340 จุด โดยแนะนำ นักลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยให้พิจารณาลงทุนจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากช่วงนี้ใกล้ประกาศงบผลประกอบการประจำไตรมาส 2/63

โดย บล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังแกว่ง Sideway Down ในกรอบ 1,300-1,340 จุด ไร้ปัจจัยเชิงบวกเข้ามาสนับสนุน ขณะเดียวกันมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2/63 มีแนวโน้มต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เทียบกับไตรมาส 2/41 ที่ติดลบ 12.5% เป็นผลต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบฉุดให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว

อีกทั้งในหลายประเทศยังคงพบยอดผู้ติดเชื้อไวรัส ทั่วโลกทะลุ 18 ล้านราย เสียชีวิตเกือบ 7 แสนราย รวมถึงการแพร่กระจายยังคงระบาดหนักอย่างต่อเนื่อง อาทิ ออสเตรเลียประกาศเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติและบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ส่วนฮ่องกง จีน และเวียดนาม พบการระบาดซ้ำ ขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าหลังจากเงินดอลลาร์ มีแนวโน้มอ่อนค่ารุนแรง จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐส่อแววฟื้นตัวช้ากว่าประเทศอื่น

ด้าน นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า นักลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยให้พิจารณาลงทุนจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากช่วงนี้ใกล้ประกาศงบผลประกอบการประจำไตรมาส 2/63 อีกทั้งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบสองวงเงินเกือบ 8.3 พันล้านบาท และการผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยหดตัวน้อยลงหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ส่วนปัจจัยบวกในต่างประเทศ จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.54 ที่ระดับ 52.8 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 51.2 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และเป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือนติดต่อกัน

ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำหุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ออกมาโดดเด่น ดังนี้

บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE จากแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/63 จะได้แรงหนุนจากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับบริษัทเตรียมรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นตามผลประกอบการของ WICE Logistics (Singapore) เพิ่มอีก 30% หรือประมาณ 18 ล้านบาท หลังจาก WICE เข้าถือหุ้น 100% ใน WICE SG เมื่อ 5 พ.ค.63 เรียบร้อยแล้ว

บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO คาดผลประกอบการไตรมาส 2/63 จะกลับมาฟื้นตัวขึ้น ตามคำสั่งซื้อจากจีนที่ถูกจากไตรมาส 1/63 และคำสั่งซื้อใหม่ที่ทยอยเข้ามาหลังกลับมาเปิดประเทศ ประกอบกับแรงหนุนจากราคายางมะตอยในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลน หลังต้องการยางมะตอยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงไฮซีซั่น

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF คาดกำไรไตรมาส 2/63 เติบโตโดดเด่น  โดยมีแรงหนุนจาก ราคาหมู และราคาไก่ ในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหมูในประเทศเวียดนามยังอยู่ในระดับสูง 80,000-100,000 ดอง/กก. ประกอบกับได้ประโยชน์จากต้นทุนกากถั่วเหลืองที่ลดลง

กลุ่มโรงกลั่น คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวสูงที่สุดเรียงจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT-บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP-บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) PTTGC ตามลำดับ เนื่องจากได้รับผลบวกจากกำไร สต็อกน้ำมันหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจาก 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาที่ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยคาดว่ากำไรจะอ่อนตัวลงในไตรมาส 3/63 เนื่องจากไม่มีกำไรจากสต็อกน้ำมันดิบ

ส่วนราคาทองคำ ประเมินว่าในสัปดาห์นี้ราคาจะปรับตัวขึ้นทดสอบ 2,000 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่  29,970 บาทต่อบาททองคำ โดยได้แรงหนุนจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

 

Back to top button