โบรกฯชู IIG หุ้นแกร่ง-ผลงานโตสวน “โควิด” ประเดิมรายได้ปีนี้แตะ 60 ลบ.

โบรกฯชู IIG หุ้นแกร่ง-ผลงานโตสวน “โควิด” ประเดิมรายได้ปีนี้แตะ 60 ลบ.


นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG โดยคาดว่าธุรกิจให้บริการระบบ CRM/ERP ของ IIG อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นตามความต้องการลงทุนของภาคเอกชนโดยเฉพาะฝั่ง CRM เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่กระแสการ Work from Anywhere เป็นตัวกระตุ้นการลงทุนระบบ ERP ใหม่ไปยัง Cloud Computing ทำให้ IIG มีโอกาสได้งานจากลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติมและต่อยอดการเติบโตจากลูกค้าเดิมที่แข็งแรงเป็นฐาน ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิของ IIG ในปี 2563-64 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 27.2% CAGR และ 22.5% CAGR ตามลำดับ พร้อมประเมินราคามูลค่าเหมาะสมที่ 9 บาท

สำหรับ IIG ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบ CRM และ ERP รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้าน Brand Strategy ซึ่งลูกค้าทั้งหมดเป็นบริษัทเอกชนชั้นนำของไทย ธุรกิจ CRM เป็น Star ส่วนธุรกิจ ERP เป็น Cash Cow ทำให้คาดว่าปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของ IIG จะมาจากธุรกิจให้บริการระบบ CRM ซึ่งประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมากซึ่งถือเป็น Star

โดยปัจจุบันบริษัทเริ่มให้ความสำคัญในการลงทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่ง IIG เป็นผู้นำของตลาดและเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของ Salesforces ซึ่งเป็น Software CRM อันดับหนึ่งของโลก

ขณะที่ธุรกิจให้บริการระบบ ERP แม้จะมีการเติบโตที่ไม่สูงนัก แต่ยังเป็นธุรกิจ Cash Cow ที่สำคัญและยังได้อานิสงส์จากกระแสการ Work from Anywhere ซึ่งทำให้บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนเปลี่ยนการใช้งานจากระบบ On Premise เป็นรูปแบบ Software as a Service (SaaS) บนระบบ Cloud มากขึ้นหลังจากที่ IIG ให้บริการงานโครงการทั้งออกแบบติดตั้งและพัฒนาระบบการใช้งานทั้งระบบ CRM และ ERP แล้วเสร็จ IIG ยังมีรายได้จากค่า Subscription ใช้งานSoftware ทั้ง Salesforces และ Oracle

รวมถึงงานบำรุงรักษา ซึ่งถือเป็นรายได้ Recurring ที่มั่นคงและมีสัดส่วนถึงราว 45% ของรายได้รวม นอกจากนี้รายได้ของ IIG ราว 90% มาจากฐานลูกค้าเดิม ซึ่งหมายถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของลูกค้าที่สูง ทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนไปใช้บริการจากคู่แข่งนั้นต่ำมาก

ดังนั้น จึงคาดว่าการเติบโตของรายได้จะค่อนข้างต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2563-64 ของ IIG จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งสวนทางวิกฤต COVID-19 จากทั้งฐานลูกค้าหลักเดิมที่ยังคงใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้ลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่ม คาดรายได้ในปี 2563-64 เติบโต +35.1% จากปี 62 และ +19.7% จากปี 63 ตามลำดับ (ปี 2563 มี Backlog รองรับแล้วเกือบทั้งหมด)

ขณะที่ฝั่ง Margin แม้จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากการเพิ่มบุคลากรรับการเติบโตระยะยาว แต่ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2563-64 จะเติบโตมาที่ 60 ล้านบาท +25.3% และ 69 ล้านบาท +19.7% จากปีก่อน ตามลำดับ โดยคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 22.5% CAGR

อย่างไรก็ตาม ประเมินราคาเหมาะสม IIG ที่ 9.00 บาท อิง PE 15 เท่าโดยสูงกว่ากลุ่ม SI อย่าง AIT SAMTEL MFEC ซึ่งมีสัดส่วนงานรับเหมาสูง แต่ต่ำกว่า HUMAN ที่มีรายได้ Recurring กว่า 80-90% โดยระดับราคาดังกล่าวเทียบกับการเติบโตเฉลี่ยปี 2563-64 คิดเป็น PEG ที่ 0.67 เท่า

Back to top button