โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ITEL เป้าใหม่ 3.56 บ.มองผลงานครึ่งหลังเด่น ดันรายได้ตามเป้า 2.4 พันล.
โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ITEL เป้าใหม่ 3.56 บ.มองผลงานครึ่งหลังเด่น ดันรายได้ตามเป้า 2.4 พันล.
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำหุ้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL โดยผู้บริหารยังคงมีมุมมองบวกต่อผลดำเนินงานของบริษัท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะเติบโตได้ทั้งจากปีก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมทั้งบรรลุเป้าหมายรายได้ปี 63 ที่ตั้งเป้าไว้ 2,400 ล้านบาท หลังช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 923 ล้านบาท คิดเป็น 45% ของเป้าหมายทั้งปี จากมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 2/63 ที่ 4,709 ล้านบาท ซึ่งคาดจะรับรู้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ราว 1,100 ล้านบาท ขณะที่ส่วนที่เหลือจะมาจากการหางานใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม โดยมูลค่างานเบื้องต้นที่บริษัทกำลังอยู่ระหว่างยื่นเอกสารและรอผลประมูลนั้นสูงถึง 3,000 ล้านบาท และคาดหวังโอกาสที่จะได้รับงานราว 25%
ทั้งนี้ ด้วยแรงผลักดันจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่คาดจะยังมีให้เห็นต่อเนื่อง ทำให้ทางฝ่ายประเมินโอกาสการเติบโตของ ITEL ยังมีอีกมากจากลักษณะการประกอบธุรกิจ สอดคล้องกับความต้องการทั้ง Data Service, Installation และ Data Center โดยในปี 64 คาดธุรกิจ Data Service จะเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทจากการรับรู้รายได้คาบริการโครงข่ายของ USO ทั้ง Phase 1 และ 2 เต็มเม็ดเต็มหน่วย หลังงานธุรกิจ Installation คาดจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้้ (สิ้นไตรมาส 2/63 โครงการ USO Phase 2 เหลือ Backlog อยู่ราว 300 ล้านบาท)
พร้อมทั้งรักษามาร์จิ้นได้ในระดับ 25-30% โดยเป้าหมายรายได้ปี 64 ที่บริษัทตงเป้าไว้ 1,618 ล้านบาท สําหรับธุรกิจ Data Service ปัจจุบันมีรายได้ที่แน่นอนแล้วคิดเป็นสัดส่วน 59% ของเป้ารายได้
ขณะที่ธุรกิจ Installation แม้ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ที่แน่นอนเพียง 57 ล้านบาท จากเป้าปี 64 ที่ 350 ล้านบาท แต่บริษัทคาดจะยังมีงานจากโครงการใหม่ๆ เข้ามาเสริมหลังอยู่ระหว่างยื่นเอกสารและรอผลประมูล ทั้งนี้บริษัทจะพยายามควบคุมระดับมาร์จิ้นของธุรกิจให้ไม่ต่ำกว่า 20%
ส่วนธุรกิจ Data Center นั้น บริษัทคาดแนวโน้มรายได้ต่อไตรมาสจะไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท และมีสวนเพิ่่มจากรายได้ตามการเปลี่ยนแปลงค่าสาธารณูปโภค ทั้งนี้ ปัจจุบันลุกค้ารายใหญ่ 3 รายของบริษัท ครอบคลุมอัตราการใช้พื้นที่กว่า 95% ขณะที่ GPM คาดจะอยู่ไม่ต่ำกว่า40%
อย่างไรก็ตาม เพื่อสะท้อนแนวโน้มผลดำเนินงานที่สดใส ส่งผลให้ทางฝ่ายมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63 เป็น 212 ล้านบาท (เดิม 160 ล้านบาท) โต 17.0% โดยหลักมาจากการปรับเป้ารายได้จากการให้บริการขึ้น ทั้งรายได้จากธุรกิจ Data Service และรายได้จากธุรกิจ Installation จากเดิมที่ประเมินไว้ต่ำเกินไป
รวมถึงการปรับ GPM เพิ่มขึ้นในธุรกิจ Data Service หลังได้แรงบวกจากค่าเช่าท่อร้อยสายไฟของ TOT ที่ปรับลงกว่า 50% ควบคู่กับการควบคุมต้นทุนที่ดีและโตต่อเล็กน้อยอีก 1.8% จากปีก่อน ในปี 64 พร้อมประเมินราคาพื้นฐานปี 64 ใหม่เป็น 3.56 บาท (ค่าเฉลี่ย P/E ย้อนหลัง 3 ปี – 1S.D. ที่ 16.5 เท่า) ซึ่งยังไม่รวมผลที่คาดเกิดขึ้นจากการใช้สุทธิแปลงสภาพ ITEL-W2
ทั้งนี้จากราคาหุ้นปัจจุบันพบว่ายังมี Upside จากราคาพื้นฐานปี 64 มากกว่า 15% ทางฝ่ายจึงปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”