โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” GPSC เคาะเป้า 95 บ. ลุ้นไตรมาส 3 กำไรโต
โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" GPSC เคาะเป้า 95 บ. ลุ้นไตรมาส 3 กำไรโต
นักวิเคราะห์บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย 91 บาทต่อหุ้น โดยการที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้าด้วยการเข้าถือหุ้นเพิ่มใน GPSC เป็น 31.72% จากเดิม 22.81% นั้น ทำให้ GPSC มีความคล่องตัวในการลงทุนโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการที่จะร่วมกับกลุ่มปตท. อย่างโครงการ Gas to Power กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ (MW) ในเมียนมา ซึ่งคาดว่าจะได้รับหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed) จากรัฐบาลเมียนมาในเร็วๆ นี้ รวมถึงการที่ปตท.วางเป้าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนถึง 8,000 เมกะวัตต์ ก็น่าจะทำให้ GPSC มีบทบาทหลักในส่วนนี้มากขึ้น
ส่วนการปิดซ่อมฉุกเฉินของโรงไฟฟ้า GLOW เฟส 5 นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.63 นั้น เนื่องจากการชำรุดของเครื่องจักร คาดว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้งในเดือนต.ค.63 ขณะที่ GPSC หันไปจ่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าอื่นที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าแทน ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะลดลงราว 300-375 ล้านบาท แต่ GPSC จะได้รับเงินประกันชดเชยในภายหลัง ทำให้ยังคงประมาณการกำไรปกติในปี 63 ที่ 7.39 พันล้านบาท เติบโตราว 52.1% จากปีก่อน
ด้านราคาหุ้น GPSC ในปัจจุบันนับได้ว่าปรับฐานสะท้อนปัจจัยเชิงลบระยะสั้น ตาม Sentiment ของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และการหยุดซ่อมบำรุงฉุกเฉินของ GLOW เฟส 5 ไปแล้ว ทำให้เห็น Upside เพื่อการลงทุนในระยะยาวมากขึ้น ขณะที่ราคาปัจจุบันก็ยังมี Upside จากราคาพื้นฐานกว่า 40%
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 95 บาทต่อหุ้น แนวโน้มกำไรของ GPSC ในไตรมาส 3/63 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในโรงไฟฟ้านั้นมีราคาที่ต่ำ ประกอบกับลูกค้ากลุ่มปตท. และปิโตรเคมี คิดเป็น 35% และ 50% ของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ที่ 1 ใน 4 ของรายได้ของ GPSC นั้นยังมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าในสัดส่วน 70-80% ขณะที่กลุ่มลูกค้ายานยนต์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 นั้น มีสัดส่วนเพียง 2% เท่านั้น