โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” TVO รับอานิสงส์ “ลานีญา” ดันราคาถั่วเหลืองพุ่ง หนุนผลงานโตต่อเนื่อง

โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" TVO ชี้ “ลานีญา” ดันราคาถั่วเหลืองพุ่ง หนุนผลงานโตต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิเคราะห์หลายแห่งกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO โดยรับปัจจัยบวกปรากฏการณ์ลานีญาที่มีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4/63 กระทบต่อผลผลิตถั่วเหลืองผลักดันราคาพุ่ง ส่งผลดีต่อราคาขายกากถั่วเหลืองของ TVO ให้เพิ่มสูงขึ้นด้วย และช่วยผลักดันผลงานในช่วงไตรมาส 4/63 น่าจะเติบโตก้าวกระโดด และยังเห็นการเติบโตต่อเนื่องไปถึงต้นปี 64

ขณะเดียวกันความต้องการถั่วเหลืองยังเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4/63 จากช่วงเทศกาลกินเจในเดือน ต.ค.และความต้องการนำเข้าถั่วเหลืองของจีน ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองต่อเนื่อง แม้ราคาน้ำมันปาล์มซึ่งเป็นสินค้าทดแทนกันอ่อนตัวลงเพราะมีอุปทานมากขึ้น แต่ถูกชดเชยจากความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ราคาถั่วเหลืองทำ New high ในรอบ 2 ปี จากปรากฏการณ์ลานีญาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. ทำให้มีปริมาณฝนน้อย และส่งผลต่อปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองที่จะออกมาลดลงด้วย ทำให้ราคาขายถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 15-16% เป็นผลบวกต่อการขายกากถั่วเหลืองของ TVO ด้วยเช่นกัน

ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/63 แนวโน้มความต้องการใช้ถั่วเหลืองจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจกลางเดือน ต.ค.นี้ ก็จะเป็นแรงหนุนราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะที่ราคากากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการของ TVO ในช่วงไตรมาส 4/63 ที่น่าจะเป็นไตรมาสที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของปีนี้ ผลักดันทั้งปี 63 ให้มีกำไรเติบโตในระดับสูงราว 24-25% จากปีก่อน

ด้านนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ปรากฏการณ์ลานีญา จะส่งผลกระทบต่อปริมาณถั่วเหลืองในอเมริกาใต้ ที่คาดว่าจะมีผลผลิตออกมาน้อย ส่งผลบวกต่อราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองที่จะปรับตัวพุ่งขึ้นในช่วงไตรมาสุดท้ายของปีนี้ และน่าจะต่อเนื่องไปถึงต้นปี 64 ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของ TVO ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1/64 จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/63 ที่จะเห็นการเติบโตก้าวกระโดดของกำไร

ขณะที่ความต้องการบริโภคถั่วเหลืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/63 จากเทศกาลกินเจในช่วงเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ ทำให้ราคาขายถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น โดยแนวโน้มขาขึ้นของราคาถั่วเหลืองโลกจะนำไปสู่การปรับขึ้นของราคาขายกากถั่วเหลือของ TVO ให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำไห้ประเมินแนวโน้มของกำไรของ TVO ในปี 63 เติบโตจากปีก่อน 15% และจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 64 ราว 30%

บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ คาดการณ์ว่า ผลงานของ TVO ในช่วงไตรมาส 4/63 จะเห็นการเติบโตที่โดดเด่น รับปัจจัยหนุนจากราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการเกิดปรากฏการณ์ลานีญา ที่ทำให้เกิดความแห้งแล้ง ส่งผลให้มีปริมาณถั่วเหลืองออกมาน้อย โดยนับจากเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาราคาถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 16-17% เป็น 10.4 ดอลลาร์/Bushel และ 330 ดอลลาร์/ตัน มากกว่าที่คาด ซึ่งนอกเหนือจากประเด็นของลานีญาแล้ว ยังได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์โลกที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งนำเข้าของจีนในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ที่ทำสถิติใหม่ที่ 98-99 ล้านตัน

ทั้งนี้ จากราคาถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปรับขึ้นสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรของ TVO ทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น 7-15% ในปี 63-64 เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 1-10% , อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น 60-100bps สะท้อนราคาถั่วเหลือง และกากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ”สำหรับ TVO แต่ปรับราคาเป้าหมายเป็น 37 บาท อิง 2564E PER ที่ 14.0 เท่า (5-Yr. average PER) จากเดิมที่ 29.25 บาท อิง 2563E PER ที่ 14.0 เท่า โดยเปลี่ยนไปใช้เป้าหมายปี 64 และมีมุมมองเป็นบวกจากธุรกิจกากถั่วเหลือง (60% ของรายได้รวม) จะได้รับผลดีจากราคากากถั่วเหลืองโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก

ส่วนธุรกิจน้ำมันถั่วเหลือง (40% ของรายได้) ยังทรงตัว โดยการบริโภคที่เพิ่มขึ้นจากเทศกาลกินเจ ช่วยชดเชยผลกระทบจากราคาน้ำมันปาล์ม (สินค้าทดแทน) ที่อ่อนตัวลง เพราะมีอุปทานมากขึ้น อย่างไรก็ตามน้ำมันถั่วเหลืองจะได้รับผลดีจากการเข้าสู่เทศกาลกินเจ รวมถึงจีนยังนำเข้าน้ำมันพืชมากขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ เพราะกังวลอาหารขาดแคลน ส่งผลให้น้ำมันถั่วเหลืองยังมีราคาใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ส่งผลให้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองอยู่ในระดับ 40-43 บาท/กิโลกรัม ยังใกล้เคียงไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ ได้ปรับกำไรสุทธิปี 63 เพิ่มขึ้น 4% มาอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน และปรับกำไรปี 64 เพิ่มขึ้น 10% มาอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีนี้ จากการปรับอัตรากำไรขั้นต้นปี 63 เป็น 11.5% (จากเดิม 11.2%) และปรับอัตรากำไรขั้นต้นปี 64 เป็น 12.3% (จากเดิม 11.6%) โดยคาดว่าผลกระทบจากลานีญาจะมีมากสุดในไตรมาส 1/64

Back to top button