ลุ้น MICRO เทรดวันแรกวิ่งทะลุ 3.50 บ. โบรกฯ การันตีพื้นฐานแกร่ง!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ต.ค.) หุ้นสามัญบริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรม ธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ และจำนวนหุ้นชำระแล้ว 935 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 935 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 235 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.65 บาท

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) ประเมินมูลค่าโดยใช้กำไรสุทธิปี 64 ที่ 183 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.20 บาท/หุ้น เติบโต 32% เมื่อเทียบจากปีก่อน  ซึ่งมองว่า Micro สมควรเทรดที่ P/E สูงกว่า ASK และ THANI เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อและกำไรสุทธิที่สูงกว่า จึงมองราคาเหมาะสมที่ 3.50 บาท/หุ้น โดย อิงกับ P/E ที่ 17.5 เท่า ความเสี่ยงหลักคือ NPL ที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นหากสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศอ่อนแอต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนส่ง เกษตร ก่อสร้าง ซึ่งอาจส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลง

ทั้งนี้คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตเฉลี่ย 30% ในปี 2563-2565 จากการเปิดสาขาใหม่ 8 สาขาในปี 2564-2565 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) จะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการเงินที่ลดลงหลังจากทำการ IPO ในขณะที่กำไรจะเติบโตโดยเฉลี่ย (CAGR) 31% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากสินเชื่อที่ขยายตัวสูงขึ้นและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้น ในขณะที่ ROE จะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นจาก 9.3% ในปี 2563 เป็น 11.6% ในปี 2565

สำหรับ MICRO ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองรายใหญ่ โดยให้บริการผ่าน 12 สาขา ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ บริษัทมีคู่ค้าเป็นผู้ประกอบการเต็นท์รถบรรทุกมือสองและนายหน้าที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ รวมเกือบ 450 ราย โดยมีระยะของสัญญาเช่าซื้อประมาณ 12–60 เดือน อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ (Flat Rate) อยู่ระหว่าง 8 -15% ต่อปี Loan to Value 70-85% บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อเติบโตประมาณ 36% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในปี 2562

โดย นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ MICRO เปิดเผยว่า หุ้น MICRO ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.) คาดว่าจะเป็นหุ้น IPO ที่โดดเด่น ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เป็นธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง และสินเชื่อประเภทอื่นที่มีรถบรรทุกมือสองเป็นหลักประกัน ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรของ MICRO อยู่ในระดับสูง อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 30.6% ต่อปี

“จากความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ของผู้บริหารและทีมงาน รวมทั้งความตั้งใจในการทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ซึ่งมีคู่แข่งทางตรงน้อย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเราเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ประกอบกับการกำหนดราคา IPOของ MICRO ไว้ที่ 2.65 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ คิดเป็น P/E (Pre-Dilution) ประมาณ 14 เท่า”นายก้องเกียรติ กล่าว

ด้าน นายวินิตย์ ปิยะเมธาง กรรมการผู้จัดการ ของ MICRO เชื่อมั่นว่าหุ้น MICRO จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้เป็นอย่างดี  เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนานกว่า 26 ปี ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ จะยิ่งทำให้ MICRO มีความแข็งแกร่งพร้อมรองรับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตที่มีเป้าหมายในการขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อให้เติบโตเป็น 5,000 ล้านบาท ภายในปี 65 และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินแก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร

สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 60-62) บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเฉลี่ย (CAGR) 24.4% ต่อปี และในงวด 6 เดือนแรกของปี 63 รายได้รวมอยู่ที่ 202.5 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 37.10% ด้านกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 30.6% ต่อปี ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และในงวด 6 เดือนแรกของปี 63 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 62.5 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 52.1% โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ดอกเบี้ยเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 30.8% และสิ้นปี 62 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 330.2 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 110.8 ล้านบาท

“มั่นใจหุ้น MICRO จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และสามารถยืนเหนือราคาจองได้ ผมเชื่อมั่นในพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ประกอบกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอยู่ในระดับที่สูง โดยการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยหนุนให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายพร้อมกับนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเตรียมพร้อมรับโอกาสในการเติบโตและจะไม่ทำให้นักลงทุนทุกท่านผิดหวัง”นายวินิตย์ กล่าว