NRF ขึ้นสังเวียนเทรดวันนี้ ลุ้นวิ่งชนเป้า 8 บ. ขานรับพื้นฐานธุรกิจแกร่ง
NRF ขึ้นสังเวียนเทรดวันนี้ ลุ้นวิ่งชนเป้า 8 บ. ขานรับพื้นฐานธุรกิจแกร่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ หุ้นบริษัท บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ NRF จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม โดย NRF ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 340 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 4.60 บาท ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.-5 ต.ค.63
ด้าน นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ NRF กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 9 ตุลาคม 2563 โดยใช้ชื่อย่อ “NRF” และหลังจากปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนทั้งสิ้น 340 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.08 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ที่ราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้นละ 4.60 บาท และมั่นใจว่าจากศักยภาพในการสร้างความเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน จะช่วยสนับสนุนให้ NRF เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ทั้งนี้ หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ วางแผนขยายการลงทุนในปี 2563-2565 คาดจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,068 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Ethnic Food มูลค่าเงินลงทุนรวม 270 ล้านบาท อาทิ ขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงกระบวนการผลิตของบริษัทฯ และ City Food ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 35% จากปัจจุบันมีกำลังผลิต 19,000 ตันต่อปี
และแผนเข้าซื้อหุ้นที่เหลืออีก 85% จากบริษัท ซิตี้ฟูด จำกัด ซึ่งก่อนหน้าได้เข้าลงทุนในสัดส่วน 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Plant-Based Food หรือผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช มูลค่าเงินลงทุนรวม 408 ล้านบาท
แบ่งเป็น การสร้างโรงงานผลิตอาหารโปรตีนจากพืชในประเทศไทย การเข้าซื้อโรงงานผลิตอาหารโปรตีนจากพืชในประเทศอังกฤษและสหรัฐฯ โดยร่วมทุนกับ THE BRECKS COMPANY LIMITED หรือ เบรคส์ เพื่อจัดตั้งบริษัท Plant and Bean Ltd. ที่ประเทศอังกฤษ ปัจจุบัน NRF ถือหุ้นในสัดส่วน 25% และมีแผนจะลงทุนเพิ่มอีกสัดส่วน 25% รวมเป็น 50% ในปี 2564
โดยการลงทุนเพิ่มใน Big Idea Venture และ New Protein Fund I เพื่อได้รับโอกาสในการเพิ่มลูกค้าโดยการเป็น preferred co-packer ให้กับสตาร์ทอัพ พร้อมทั้งได้รับความรู้และเทคโนโลยีล่าสุดของอุตสาหกรรม และลงทุนในเครื่องจักรผลิตเส้นบุกเครื่องที่ 2 เพื่อขยายกำลังการผลิต คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 4/63
สำหรับการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Functional Products หรือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shapes) โดยมีแผนร่วมลงทุนเครื่องจักร V-shape อีก 5 เครื่อง มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 90 ล้านบาท หลังบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญากับ Fluid Energy Group LTD ผู้นำนวัตกรรมเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บริการเครื่องจักร V-shape สำหรับผลิตสินค้า Sanitization เพื่อจำหน่ายในประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และแถบตะวันออกกลาง
และลงทุนใน E-Commerce Platform มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 300 ล้านบาท โดยจะร่วมทุนกับ Boosted ECommerce Inc. (Boosted) ใน 2 รูปแบบ คือ ลงทุนในกลุ่มบริษัท Boosted Ecommerce Inc. (Boosted) เพื่อบริหารจัดการธุรกิจ e-commerce ของ Third-party seller บน Amazon e-commerce platform และร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อลงทุนใน Consumer Package Goods ในอุตสาหกรรมอาหาร (รวมถึง pet food) ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ คือมียอดขายเพิ่มขึ้นให้ได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2567
นางสาววีณา เลิศนิมิตร กรรมการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า NRF นับเป็นหุ้นสาย Food Tech และเป็นหุ้นไทยตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนพืชแห่งอนาคต
โดยในช่วงการจองซื้อหุ้น IPO ที่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ซึ่งมีความต้องการจองซื้อมากถึง 8 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรรแก่นักลงทุนสถาบัน เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และด้วยศักยภาพในการสร้างความเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน และมีเป้าหมายเป็นผู้นำระดับโลกในการเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งอนาคต “Food For Future”
นอกจากนี้ NRF คือ บริษัทฯ ที่ทำธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เพียงขายผลิตภัณฑ์เพื่อได้กำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับการจัดการ Sustainable Supply Chain ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อ การผลิต จัดเก็บ ขนส่งและจัดจำหน่าย ตลอดจนให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในทุกฝ่ายตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อเสิร์ฟผลิตภัณฑ์อาหารที่มีรสชาติถูกปาก และดีต่อสุขภาพ ให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรตามความพึงพอใจ
และที่สำคัญ คือการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ยังตอบโจทย์สไตล์ผู้คนยุคใหม่อย่าง Millennial (Gen me) ที่เน้นกินอาหารเพื่อสุขภาพอย่างผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ NRF ที่มุ่งเน้นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนของโลก อย่างการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ทดแทนด้วยอาหารโปรตีนจากพืช นอกจากนี้ ยังถือเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็น Carbon Neutral ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันในตลาดโลก
ด้าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ NRF เข้าซื้อขายใน SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม กำหนดวันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนกับตลท. และวันที่เริ่มทำการซื้อขาย วันที่ 9 ต.ค.63 โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. และจำนวนหุ้นชำระแล้ว 1,355,780,300 หุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 1,355,780,300 บาท
สำหรับ NRF ดำเนินธุรกิจผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัตที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 340 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 4.60 บาท ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.-5 ต.ค.63
ด้าน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” NRF ด้วยราคาเป้าหมาย 8 บาท โดยมองจุดแข็งของบริษัท มาจาก 1) ธุรกิจส่งออก ethnic food ไปยัง 25 ประเทศ ที่เติบโตแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทมีทั้งแบรนด์ของตัวเอง และ OEM
2) New S-Cure ในธุรกิจอาหารจากพืช ซึ่ง NRF เป็นบริษัทเดียวใน SET ที่มีธุรกิจนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 6.4% ละตั้งเป้าจะเพิ่มให้เป็น 30-40% ในปี 2567 ซึ่งบริษัทมีพันธมิตรระดับโลก
3) บริษัทเริ่มธุรกิจใหม่อีก 2 หน่วย คือ Functional product และ e-commerce ซึ่งทั้งสองธุรกิจนี้จะช่วยเติมเต็มธุรกิจอาหารในระดับโลก ซึ่งคาดการณ์กำไรเติบโต 100% ในปี 2564 และเฉลี่ย 52%/ปี ในช่วง 2563-65