โบรกฯ แนะสอย INSET ชูพีอีต่ำ จับตาฟันกำไรไตรมาส 3 โตแรง 70%
โบรกฯ แนะสอย INSET ชูพีอีต่ำ จับตาฟันกำไรไตรมาส 3 โตแรง 70%
บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) หรือ INSET โดยคาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 3/2563 จะอยู่ที่ 51.4 ล้านบาท ทรงตัวจากฐานสูงในงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นถึง 70.5% จากงวดไตรมาส 2/2563
รวมทั้งประเมินมาจากรายได้คาดเติบโตถึง 62.2% จากไตรมาส 2/2563 มาอยู่ที่ 500 ล้านบาท จากการส่งมอบงานหลักๆใน Backlog สิ้นสุดไตรมาส 2/2563 เช่น งาน Filter คลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ของ CAT กับงาน Data Center ของธนาคารกรุงไทย อีกส่วนที่หนุนคือ Net Profit Margin คาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.3%จาก 9.8% จากความประหยัดต่อขนาดที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจ
ทั้งนี้ ประเมิน Backlog สิ้นไตรมาส 3/2563 ที่ระดับ 2.7-2.8 พันล้านบาท ครอบคลุมเป้าหมายรายได้ไตรมาส 4/2563 ที่ราว 400 ล้านบาท ในสัดส่วน 100% แล้ว จึงคงคาดกำไรปีนี้เติบโต 22%
ส่วนระยะถัดไป บริษัทฯได้รับงานต่อเนื่อง เช่น 5G ซึ่งคาดว่าจะมีความต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้า จากการเข้าสู่รอบลงทุนใหญ่ และคาดตามด้วยงานระบบอาณัติสัญญาณรถไฟของพันธมิตรในช่วงปลายปี หนุน backlog สิ้นปี 2.8 พันล้านบาท โดยจะรองรับเป้าหมายรายได้ปี 2564 เติบโต 10% ที่ 1.54 พันล้านบาท เกิน 80% โดยยังไม่รวมงาน Data Centerที่จะตาม 5G จึงคาดกำไรปี 2564 เติบโตอีก 11.2%
อย่างไรก็ตาม ยังคงให้มูลค่าพื้นฐานที่ระดับราคา 4.66 บาท โดยราคาปัจจุบันเชื่อว่ายังอยู่ในโซนที่ถูก สะท้อนจาก พีอีเรโช ปี 2564 อยู่ราว 11.8 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ซื้อขายกันราว 16-18 เท่า
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น INSET คาดกำไรไตรมาส 3/2563 จะสูงกว่ากำไรในช่วงครึ่งปีแรกปี 2563 โดยเพิ่มขึ้น 84 เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และ 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน ปกติรายได้ในครึ่งปีหลังจะสูงโดยเฉพาะไตรมาส 3 ที่เป็นช่วงปิดงบประมาณของภาครัฐ บวกกับการเพิ่มขึ้นของงานซ่อมบำรุงซึ่งมี Margin สูง ณ สิ้น ไตรมาส 2/2563 มี Backlog 3.1 พันลบ. และเข้าประมูลงานอีก 300-400 ล้านบาท คาดหวังได้รับงาน 60% จึงทำให้แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2563 ถึงปี 2564 อยู่ในเกณฑ์ดี
ทั้งนี้ INSET อยูในอุตสาหกรรมที่เติบโตทั้งจาก 5G, work from anywhere และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จึงปรับกำไรปีนี้ขึ้น 6% เป็น 17% เมื่อเทียบจากปีก่อน และคาดปี 2564 เพิ่มขึ้น 11% ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 4.20 บาท