โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” MTC เป้า 58 บ. ฟันธงกำไรไตรมาส 3 “ออลไทม์ไฮ” แตะ 1.3 พันล.

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสฯ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ราคาเป้าหมาย 58 บาท/หุ้น โดยคาดการณ์ว่า MTC จะทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3/63 โดยประมาณการไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท เติบโต 18% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน

ขณะเดียวกัน คาดรายได้ดอกเบี้ยจะเติบโต 14% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน สินเชื่อโต 19.7% จากปีก่อน, เพิ่ม 8% จากไตรมาสก่อน จากโรงเรียนเปิดเทอม และเป็นฤดูกาลเพาะปลูก แต่สเปรดแคบลงจากปีก่อน  ส่วนการขยายตัวจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากสินเชื่อและสเปรดดีขึ้นจากไตรมาส 2/63 เพราะต้นทุนการเงินลดลง (บริษัทได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธอส.เข้ามา)

นอกจากนี้ การขยายสาขาตามแผน โดยเปิดเพิ่ม 229 สาขาในไตรมาส 3/63 ทำให้มีสาขาทั้งสิ้น 4,797 สาขาในสิ้นก.ย.63 ทะลุเป้าที่ตั้งไว้สำหรับสิ้นปี 63 ที่ 4,700 สาขาไปแล้ว

ส่วนปัจจัยที่ได้รับผลกระทบจากการที่ธปท.ลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำจำกัด ทั้งนี้ ธปท.ให้ลดเพดานสินเชื่อส่วนบุคคลเป็น 25% ต่อปี (เดิม 28%) และลดเพดานสินเชื่อจำนำเป็น 24% ต่อปี (เดิม 28%) มีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.63 ซึ่งส่วนนี้กระทบ MTC จำกัดเพราะปัจจุบันคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลเท่ากับเพดานใหม่ที่ 25% ต่อปี และสินเชื่อจำนำต่ำกว่าเพดานที่ 21% ต่อปี (ค่าเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 21-22% ต่อปี) โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับสินเชื่อจากลูกหนี้

พร้อมกันนี้ คาด NPL ratio สิ้นไตรมาส 3/63 ทรงตัวที่ 1.1% ของสินเชื่อรวม แต่คาดว่าจะตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีลูกหนี้ค้างชำระเกิน 1-30 วัน (หนี้ Stage 2) สูงขึ้น แต่ยังไม่จัดชั้นเป็น NPL (หนี้ Stage 3)

ดังนั้น คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท อิงกับ P/BV ปี 63F ที่ 6 เท่า (-2SD ของค่าเฉลี่ยระยะยาว) โดยฝ่ายวิจัยฯ DBS ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ขึ้น +3% ทำให้กำไรสุทธิปี 63 จะเติบโต +21% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวต่อ +15% จากปีก่อนในปี 64 นับว่าแข็งแกร่งมากในยามที่มีวิกฤตโควิด-19