โบรกฯ ฟันธง HANA ไตรมาส 4 กำไรโตต่อ รับออเดอร์พุ่งกระฉูด!

โบรกฯ ฟันธง HANA ไตรมาส 4 กำไรโตต่อ รับออเดอร์พุ่งกระฉูด!


บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ประเมินราคาเป้าหมาย 46 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/63 โตดีสวนทางฤดูกาล เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากคำสั่งซื้อที่สูงขึ้นทั้งกลุ่ม Smartphone และ Automotive รวมถึงได้ลูกค้าใหม่ทำให้ใช้กำลังการผลิตเกินกว่า 90%

นอกจากนี้ กำลังการผลิตใหม่จะเข้ามาเสริมในไตรมาส 1/64 อีก 20% จากเดิมรองรับการเติบโต ส่วนปัจจัยถ่วงมีเพียงค่าเงินบาทที่แข็งค่า พร้อมคาดกำไรปกติปี 2563-2564 เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 22% เมื่อเทียบจากปีก่อน

ส่วน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น HANA ปรับราคาพื้นฐานเป็น 44 บาท แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นจากสิ้นไตรมาส 3/63 มาราว 4% ซึ่งกดดันให้การดำเนินงานต่ำกว่าคาดได้แต่จากการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และฐานการผลิตทำให้มีความได้เปรียบหากเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันทำให้ทางฝ่ายยังชอบ HANA

ทั้งนี้มีมุมมองบวกมากขึ้นจากแนวโน้มในไตรมาส 4/63 และปีหน้าซึ่งมีทิศทางที่ดีขึ้นจากการได้มาของคำสั่งซื้อทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่จะทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับหลัง COVID-19 คลี่คลายทำให้ปรับประมาณการใหม่ภายใต้ยอดขายเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบจากปีก่อน ที่ 696 ล้านเหรียญ แต่ได้ปรับลด Margin ลงจากผลของเงินบาทแข็งค่า และปรับกำไรสุทธิเป็น 1,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบจากปีก่อน (สมมติฐานเงินบาท 30.50 บาท/ดอลลาร์)

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น HANA ราคาเป้าหมาย 42 บาท/หุ้น แม้ผู้บริหารของ HANA ยังมีความระมัดระวังต่อการระบาดรอบ 2 และกำลังซื้อที่หายไปในช่วงไตรมาส 4/63 แต่อุปสงค์ของมือถือจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/63 ไปยังไตรมาส 1/64 เนื่องมาจากการเปลี่ยนผ่านไปเข้ายุคของระบบ 5G และการกลับมารีสต็อคหลังจากที่ใช้สต็อคเดิมไปแล้วกว่า 2 ไตรมาส ทำให้เชื่อว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากโอกาสนี้

ทั้งนี้ผลประกอบการที่อ่อนแอของ HANA มาจากผลของค่าเงินบาท และคำสั่งซื้อที่ลดลงจากช่วงล็อคดาวน์ แต่อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อเริ่มกลับมาอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาส 3/63 และโรงงานที่อยุธยาเองก็มีกำลังการผลิตเต็มที่ หนุนโดยอุปสงค์ของมือถือ และระบบที่เกี่ยวข้องกับ 5G นอกจากนี้ HANA ยังได้งานจากเครื่องวัดชีพจรเพิ่มขึ้น (HRM) ทำให้เราเชื่อว่าจะมาชดเชย RFID และผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ ที่อ่อนแอ และทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนในช่วงไตรมาส 4/63

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าโรงงานที่ Jiaxing คิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกปี 2563 จะฟื้นตัวขึ้นภายใน 2 ปีหลังจากที่รายได้ลดลง 22% ในปี 2562 และ 10% ในปี 2563 จากผลของสงครามการค้าและ COVID-19 โดยการฟื้นตัวจะมาจากอุปสงค์ภายในประเทศของจีนที่หันมาพึ่งพาตัวเองมากขึ้น และมีการเติบโตที่เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก ทำให้มองว่าการที่มีโรงงานในหลายประเทศเป็นปัจจัยบวกต่อ HANA

Back to top button