คัด 7 หุ้นท่องเที่ยว รับปัจจัยบวกนโยบายรัฐสูงสุด-สะสม 2 หุ้นแลกการ์ดโอกาสฟื้นสูง!

คัด 7 หุ้นท่องเที่ยว รับปัจจัยบวกนโยบายรัฐสูงสุด-สะสม 2 หุ้นแลกการ์ดโอกาสฟื้นสูง!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป ที่รวมรวมบจ.ในกลุ่มท่องเที่ยวที่มองว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายรัฐบาล ขณะที่ได้คัดเลือกบจ.ที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าหุ้นในกลุ่มเพราะหุ้นดังกล่าวมีโอกาสปรับตัวขึ้นมากกว่าหุ้นที่มีการปรับตัวขึ้นสูงแล้ว

โดย บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ธ.ค.63) ประเมินแนวโน้ม SET INDEX สัปดาห์นี้น่าจะเริ่มชะลอความร้อนแรงจาก 1) นับตั้งแต่ต้นเดือนปรับตัวขึ้นมา 15.3% Outperform สุดในตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย จึงน่าจะเห็นแรงทำกำไรระยะสั้นออกมาบ้าง

2) ทิศทางจาก Foreign Fund Flow เริ่มเป็นลบหลังวันศุกร์พลิกมาขายสุทธิ 2.5 พันล้านบาท นับเป็นการขายสุทธิที่สูงสุด 27 วันทำการ (ไม่นับ MSCI วันที่ 30 พ.ย.) ดังนั้นแนะติดตามใกล้ชิดเกี่ยวกับสถานะของนักลงทุนต่างชาติ หากเดินหน้าขายสุทธิต่อเนื่องอาจกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลงได้

อย่างไรก็ตามแม้ในภาพรวมจะไม่มีปัจจัยอะไรโดดเด่นรวมถึงสัปดาห์นี้ไม่ได้มีตัวเลขทางเศรษฐกิจอะไรที่สำคัญ แต่มองว่ามีอุตสาหกรรมที่น่าสนใจและตลาดอาจเลือกจะมาเก็งกำไรกันในสัปดาห์นี้ ได้แก่กลุ่มท่องเที่ยวจากข่าวหนุนคือองค์กรอาหารและยาของสหรัฐได้อนุมัติการใช้ Vaccine ป้องกัน COVID19 ของ Pfizer Inc. โดยมีกำหนดจะเริ่มฉีดให้ประชาชนสหรัฐตั้งแต่ 14 ธ.ค. มอง เป็นบวกเชิงจิตวิทยาต่อกลุ่มท่องเที่ยว (AOT AWC AAV CENTEL ERW MINT SHR)

โดยตัวที่มองเป็นบวกมากสุดจะเป็น MINT เนื่องจากเป็นหุ้นโรงแรมเพียงตัวเดียวในประเทศไทยที่มีรายได้ในสหรัฐ รองลงมาจะเป็นหุ้นที่มีรายได้ในสหรัฐ อาทิ TU ที่มีรายได้ในสหรัฐและแคนาดาราว 43% ของยอดขายรวม

ขณะเดียวการท่องเที่ยวในประเทศไทยของคนไทยกันเองก็เริ่มเห็นสัญญาณบวกโดยสิทธิ์ของโครงการ “เราไปเที่ยวด้วยกัน” จำนวน 5 ล้านสิทธิ์ถูกใช้กันเต็ม โดยรัฐบาลจะขยายเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. นี้และขยายระยะเวลาการใช้ได้ถึง 30 เม.ย. 21 จากเดิมที่จะหมดเขตในช่วง 31 ม.ค. 21 นอกจากกลุ่มท่องเที่ยวจะรับผลบวก มองปั๊มน้ำมันเป็นอีกตัวที่ได้ประโยชน์ (PTG)

ส่วนปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ 1) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 17 ธ.ค.63 ประเมินคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมแต่แนะติดตามประมาณการเศรษฐกิจรวมถึงเส้นทางดอกเบี้ย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะกลาง  ยาว แนะสะสมได้ในหุ้นที่ Valuation ไม่แพงและยัง Laggard (ADVANC CPALL) ส่วนนักลงทุนระยะสั้นแนะเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยว (AOT AAV AWC CENTEL ERW MINT SHR) ตามปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันหากระหว่างสัปดาห์ถอยหลุดต่ำกว่า 1,445 จุด ควรเพิ่มการถือครองเงินสดหรือทำกำไรในหุ้นที่มีกำไรและรอดูสถานการณ์อีกครั้ง

AAV (ถือ / ราคาเป้าหมาย 1.8 บาท) แม้ในเชิงพื้นฐานจะให้คำแนะนำเพียง ถือ และราคาเป้าหมายไม่มี Upside เมื่อเทียบกับราคาปิดล่าสุด อย่างไรก็ตามบริษัทเป็นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ Valuation ค่อนข้างถูกซื้อขายเพียง 0.79x Trailing PBV และมีประเด็นบวกในสัปดาห์นี้ ส่วนด้านผลประกอบการคาด 2H21 อาจเป็นช่วงเวลาที่เริ่มกลับมามีกำไรได้

ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 233 บาท) ราคาหุ้นล่าสุดมี Upside จากราคาเป้าหมายเราสูงถึง 23% พร้อมกับเงินปันผลเฉลี่ยต่อปีราว 4% ขณะที่ธุรกิจมีความมั่นคงทางรายได้และผลประกอบการย้อนหลังไม่เคยขาดทุนสุทธิ สวนทางกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันที่บางปีพบการขาดทุนสุทธิ

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

 

 

 

Back to top button