วอลุ่ม NVDR โป่ง! ฝรั่งเก็บหุ้นรฟฟ. 2 วันแรกฟาดรีเทิร์นทะลุทะลวง EA เด่นสุดพุ่ง 30%
วอลุ่ม NVDR โป่ง! ฝรั่งเก็บหุ้นรฟฟ.ซื้อขาย 2 วันแรก ฟาดรีเทิร์นทะลุทะลวง
“ผู้สื่อข่าว” รายงานว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดทำการซื้อขายในปี 2564 มาได้ 2 วันทำการ ปรับตัวขึ้นกว่า 57.3 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,506.65 จุด
โดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่เป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมาส่วนใหญ่พบว่าเป็นหุ้นที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทน ซึ่งราคาหุ้นบจ.ในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่เมื่อตรวจสอบดูมูลค่าการซื้อหุ้นของ NVDR หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย ในกลุ่มพลังงานวันที่ 4 ม.ค. สูงถึง 4.84 พันล้านบาท และวันที่ 5 ม.ค. อีกจำนวน 7.26 พันล้านบาท รวมทั้ง 2 วันมีการเข้าซื้อกว่า 1.21 หมื่นล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสาเหตุเกิดจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างหนักอีกครั้ง นักลงทุนจึงเข้าลงทุนในหุ้นปลอดภัยแทน เนื่องจากกลุ่มพลังงานทดแทนนั้น เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัด จากการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว อีกทั้งมีรายได้สม่ำเสมอ
ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจและรวบรวมราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มดังกล่าวในช่วงวันที่ 4 ม.ค.-5 ม.ค.2564 โดยจะรวบรวมราคาหุ้นที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมานำเสนอ ควบคู่ไปกับการนำมูลค่าหุ้นตามบัญชีต่อหุ้นของหุ้นแต่ละตัวมาประกอบการตัดสินใจให้กับนักลงทุน โดยอิงข้อมูลจาก P/BV ซึ่งเป็นอัตราส่วนทางการเงินอีกตัวหนึ่งเช่นกัน ที่ใช้เปรียบเทียบระหว่างราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี โดยหุ้นที่ P/BV ต่ำ จะยังเป็นหุ้นที่มีความปลอดภัยสูง
สำหรับหุ้นโรงไฟฟ้าที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวประกอบด้วย ดังนี้
(*ข้อมูลไม่รวมบจ.ที่มีสภาพคล่องน้อย)
ทั้งนี้ NVDR เป็นตราสารที่ออกโดยบริษัทย่อยที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้น ซึ่งคือ “บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด” (Thai NVDR Company Limited) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งช่วยให้ชาวต่างประเทศลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนได้โดยไม่ติดเรื่องเพดานการถือครองหลักทรัพย์ของชาวต่างชาติ (Foreign Limit)
*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน