TRUBB ตั้งเป้ารายได้ปี 64 โตเกิน 10% เล็งดัน “เวิลด์เฟล็กซ์” เข้า mai ปีนี้
TRUBB ตั้งเป้ารายได้ปี 64 โตเกิน 10% หนุนกำไรดีกว่าปี 63 เล็งดัน “เวิลด์เฟล็กซ์" เข้า mai ปีนี้ โดยมี บล.เคทีบีเอสที (KTBST) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล ประธานกรรมการ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB เปิดเผยว่า บริษัทคาดปี 64 กำไรสุทธิดีกว่าปีก่อน ตามรายได้ที่น่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% เนื่องจากกลุ่มธุรกิจน้ำยางข้นและน้ำยางแปรรูปที่ยังเติบโตต่อเนื่อง และยังสร้างอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ที่ดีกว่าปีก่อน รับอานิสงส์สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้มีความต้องการถุงมือยางค่อนข้างมาก จึงส่งผลดีต่อตลาดน้ำยางข้นเติบโตมากกว่าปกติ บริษัทจึงสามารถเรียกมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นได้
ขณะที่สถานการณ์ราคายางในปีนี้ถือว่าดีกว่าปีก่อน โดยราคายางปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 50 บาท/กิโลกรัม จึงทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการโดยรวมของบริษัทในปีนี้จะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อก
อีกทั้งจากการที่ TRUBB ได้จัดตั้งบริษัท ไทยรับเบอร์โกลฟส์ จำกัด ผลิตถุงมือยาง ทั้งประเภทที่ใช้ในทางการแพทย์และเอนกประสงค์ กำลังการผลิตรวม 60 ล้านชิ้น/เดือน เพื่อขายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ โดยจะใช้โรงงานที่มีอยู่ 2 แห่งใน จ.ชลบุรี และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ปัจจุบันปล่อยเช่าอยู่และจะหมดสัญญาเช่าเร็ว ๆ นี้มาดำเนินการต่อ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 1/64 และรับรู้รายได้เข้ามาทันที
ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายรายที่สนใจเข้าร่วมลงทุน (JV) ในธุรกิจถุงมือยางดังกล่าว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจในด้านการขยายตลาด เนื่องจากบริษัทมีแผนส่งออกถุงมือยางไปในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งในแถบทวีปยุโรปและสหรัฐ เป็นต้น
นอกจากนั้น แผนงานในปีนี้ บริษัทย่อย คือ บริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดจากน้ำยางธรรมชาติ อยู่ระหว่างเตรียมยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 2/64 หรือ ไตรมาส 3/64 คาดหวังว่าจะได้รับการอนุมัติและเข้าจดทะเบียนใน mai ภายในปี 64 โดยมี บล.เคทีบีเอสที (KTBST) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
“ในปี 64 เราคาดว่ารายได้ต้องโตอย่างน้อย 10% โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจถุงมือยาง และบริษัทลูกที่จะเข้าตลาดในปีนี้ เพื่อระดมทุนขยายกำลังการผลิต” นายวรเทพ กล่าว
ด้านผลประกอบการในปี 63 นายวรเทพ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิจากปี 62 ที่ขาดทุน 351.72 ล้านบาท หลังจากผลงานในช่วง 9 เดือนแรกปี 63 (ม.ค.-ก.ย.) ขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 10.66 ล้านบาท และเชื่อว่ารายได้ทั้งปีน่าจะทำได้ใกล้เคียงปี 62 ที่มีรายได้ 6.87 พันล้านบาท โดยจาก 9 เดือนแรกมีรายได้แล้ว 4.7 พันล้านบาท และคาดว่าไตรมาส 4/63 รายได้จะดีกว่าไตรมาส 3/63 อย่างมีนัยสำคัญ