QTC กางแผน “ปีฉลู” ดันรายได้ 1.2 พันล. เจาะตลาด “โซลาร์” – ประมูลงานหม้อแปลงฯ 1.5 พันล.
QTC กางแผน “ปีฉลู” ดันรายได้ 1.2 พันล. เจาะตลาด “โซลาร์” – ประมูลงานหม้อแปลงฯ 1.5 พันล.
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตจัดจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ว่า ในปีนี้บริษัทฯ วางกลยุทธ์เชิงรุกในการเจาะตลาดทั้งในธุรกิจการจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า การให้บริการ และธุรกิจเทรดดิ้ง จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรง(DC) ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) เพื่อใช้กับแผงโซลาร์เซลล์ รวมไปถึงการจำหน่าย DE BUSDUCT ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมแตะระดับ1,200 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 900 ล้านบาท และธุรกิจเทรดดิ้ง 300 ล้านบาท
ทั้งนี้จากความมุ่งมั่นดำเนินงานซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการปรับกลยุทธ์ช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดออเดอร์จากกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาแล้ว ทำให้ล่าสุดบริษัทฯมียอดขายต่อเนื่องจากปีก่อนจนถึงปัจจุบันกว่า 320 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าต่างประเทศ จำนวน 200 ล้านบาท ยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศ จำนวน 90 ล้านบาท และจากเทรดดิ้ง โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ ให้กับ LONGI Solar จำนวน 30 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ กับพันธมิตรอีก 2 ราย คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ซึ่งจุดเด่นของแผงโซลาร์เซลล์ ที่ QTC เป็นตัวแทนจำหน่าย ให้กับ LONGI Solar Technology Co., Ltd. นั้น คือเป็นแผงโซลาร์ฯ Tier 1 ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดด้วยโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Half-Cut Technology ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 98% และยังสามารถสร้างพลังงานได้แม้ในภาวะแสงน้อย และสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าออกมาได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 25 ปี และในปี 2564 นี้ จะเปิดตัวแผงโซลาร์เซลล์ ขนาด 540 W เพื่อวางจำหน่ายในประเทศไทยต่อไป จากปัจจุบันมีขนาดสูงสุด 450 W
“ต้องยอมรับว่า LONGI Solar Technology Co., Ltd. เป็นผู้ประกอบการรายแรกและใหญ่ที่สุดที่มีการพัฒนานวัตกรรมขนาดแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้งานของแผงโซลาร์ฯ ได้มากขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยให้ผู้ลงทุนมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น จากพื้นที่การติดตั้งเท่าเดิม ซึ่งถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว” นายพูลพิพัฒน์ กล่าว
นายพูลพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการทดสอบความแข็งแกร่งทางธุรกิจอีกปีหนึ่ง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากรอบแรกจนถึงรอบใหม่ที่กระจายเพิ่มขึ้นในขณะนี้ ซึ่ง QTC ได้รับผลกระทบในเชิงการขนส่งสินค้าอยู่บ้าง แต่ในส่วนของยอดขายยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีคำสั่งซื้อเข้ามาตั้งแต่ต้นปีถึง 200 ล้านบาท เพราะเรามีการพัฒนานวัตกรรมในรูปแบบ Smart transformer ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คคุณภาพการทำงานของหม้อแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะหม้อแปลง Super Low Loss (Amorphous) ที่ QTC เป็นผู้ผลิตซึ่งเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และ ลาว เป็นต้น
สำหรับภาพรวมธุรกิจหม้อแปลงในประเทศนั้น ยังคงขึ้นอยู่กับการขับเคลื่อนภาคการลงทุนภายในประเทศ และการเปิดประมูลงานของภาครัฐที่ทยอยออกมา อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน การส่งเสริมให้มีการใช้รถไฟฟ้า(EV) เพิ่มขึ้น เป็นต้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นตัวต่อยอดที่ทำให้เกิดความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีแผนการเข้าประมูลงานการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะได้งานไม่น้อยกว่า 10% ของมูลค่างาน ซึ่งคาดว่าจะทยอยประกาศผลออกมาในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้