“โนมูระฯ” เปิด 5 หุ้นเด่นขานรับ อย.กัญชง แนะเลือกเก็บกลุ่ม Laggard โอกาสฟื้นสูง!

"โนมูระฯ" เปิด 5 หุ้นเด่นรับอานิสงส์กัญชง แนะเลือกเก็บกลุ่ม Laggard โอกาสฟื้นสูง!


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ม.ค.2564) ว่า สืบเนื่องจากความคืบหน้าของการนำพืชสมุนไพร กัญชง (Hemp) /กัญชา (Cannabis) มาใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากขึ้นในประเทศไทย ล่าสุดประกาศลงราชกิจจา 30 ธ.ค.63 (เริ่มมีผลพรุ่งนี้ 29 ม.ค.2564) อนุญาตนำเฉพาะกัญชง (คุณสมบัติคล้ายกัญชา แต่มีฤทธิ์ที่อ่อนกว่า) ไปใช้เชิงพาณิชย์และอย.จะเปิดให้ผู้ประกอบการขออนุญาตปลูกและใช้กัญชงในพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อธุรกิจได้

โดยจะทยอยปลดล็อคกฎเกณฑ์และออกกฎหมายสำหรับผลิตภัณฑ์ตามมาในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 (กรณีไวสุด ราว มี.ค. 2564) อาทิ อาหารเสริม เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม ฯลฯ ทางทีมกลยุทธ์ จึงนำเสนอข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Theme นี้ จะเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการที่เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เน้นนวัตกรรมทั้งกลุ่มเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง อาหาร ยา สารปรุงแต่งกลิ่น สี  ฯลฯ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนไทยมีอยู่หลายรายที่ทีมกลยุทธ์ประเมินว่ามีความพร้อม และสามารถนำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์ได้

ดังนี้ 1) กุล่มผู้ประกอบการที่มีฐานธุรกิจเครื่องดื่มเดิมแข็งแรง ที่เน้นสินค้า Innovative(Energy Drink-Functional Drink) เช่น OSP (TP42) CBG(TP145) ICHI (TP13.7) SAPPE (TP26.5)

2) ผู้ประกอบการกลางน้ำอย่าง RBF (TP10.5) ซึ่งความต้องการสารปรุงแต่งกลิ่น สี เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐาน

3) กลุ่ม Laggard ที่เน้นนวัตกรรม อาทิ Wellness&Spa (SPA), Capsule (MEGA (TP39)), อาหาร/ขนม (ZEN (TP11.5), AU (TP10)) โดยทีมกลยุทธ์คัดเลือกหุ้นในกลุ่มนี้มาจากความพร้อมของโอกาสต่อยอดเชิงธุรกิจ และอยู่ใน Coverage เชิงปัจจัยพื้นฐานของ CNS เพื่อให้สามารถประเมินมูลค่าพื้นฐานเพิ่มเติมได้ กรณีมีความชัดเจน แม้บางบริษัทจะมี Upside จำกัดจากมูลค่าพื้นฐานของเรา แต่ความคืบหน้าเชิงพาณิชย์ที่จะทยอยออกมา จะเป็น Upside Risk ผลักดันให้หุ้นมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องได้ นอกจากนี้กระแสของหุ้น Theme Cannabis ในต่างประเทศยัง Outperform +20% นับตั้งแต่ต้นปี แนะนำ OSP CBG ICHI SAPPE SPA เด่น

ทั้งนี้มองว่า หากหวังผลเชิงเศรษฐกิจเป็นหลัก การปลูกเพื่อส่งออกน่าจะสร้างผลประโยชน์ต่อผู้ประกอบการมากที่สุด ทั้งราคาขาย และตลาดที่มีรอรับแล้ว ซึ่งในที่นี้คือ กลุ่มต้นน้ำสำหรับธุรกิจกลางน้ำ-ปลายน้ำไทย ในหลายบริษัทมีโอกาสต่อยอดผลิตภัณฑ์

ขณะที่ผลต่อผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่อยู่ในส่วนชั้นปลาย มองแนวทางที่ผู้ประกอบการมีโอกาสทำได้ อาทิ การร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่มีการศึกษา และมีพื้นที่ปลูก เพื่อให้ครบวงจรต้นน้ำ-ปลายน้ำ โดยผู้ประกอบการที่มีความเป็นไปได้คือ
1.กลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มเครื่องดื่มที่เน้นสินค้า Innovative (CBG OSP ICHI SAPPE TACC TIPCO)
2.ผู้ประกอบการกลางน้ำอย่าง RBF ซึ่งจำเป็นต้องใช้การปรุงแต่งกลิ่น สี เพื่อให้คุณภาพสินค้าได้มาตรฐาน รวมถึงโรงสกัดอย่าง DOD
3.ผู้ประกอบการกลุ่มอื่นที่มีกลุ่มสินค้าที่สามารถทำได้ อาทิ แคปซูล MEGA IP ZEN AU (อาหาร ขนม) ผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง อย่าง CPF ASIAN ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและสปา (SPA) โดยรวมหากทำได้จริงคาดว่าจะเป็น Upside ต่อกำไรพอสมควร

โดยเชิงกลยุทธ์ เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมารับข่าวไปพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่ม (นับตั้งแต่ต้นปี CBG +23.7% ICHI +14.7% RBF +25.8% OSP +4.2% SAPPE+9.8%) เน้นเป็นเพียงเก็งกำไรโดยมีจุดตัดขาดทุน หรืออาจมองกลุ่ม Laggard ที่เน้นนวัตกรรม (SAPPE MEGA ZEN AU SPA) ซึ่งสินค้าอยู่ในข่ายนำมาผลิตได้เช่นกัน ซึ่งแม้บางบริษัทจะมี Upside จำกัดจากราคาเป้าหมาย แต่มองความคืบหน้าเชิงพาณิชย์ที่จะทยอยออกมา จะช่วยให้ราคาหุ้นยังมีกระแสเก็งกำไรได้ และผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจสร้าง Upside เพิ่มเติม กลุ่มเด่น (OSP CBG ICHI SAPPE SPA)

Back to top button