JKN ปี 63 ผลงานสวย! คาดกำไรพุ่งกว่า 30% รับธุรกิจใหม่-บุกตลาดตปท.
JKN ปี 63 ผลงานสวย! คาดกำไรพุ่งกว่า 30% รับธุรกิจใหม่-บุกตลาดตปท.
บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท/หุ้น โดย JKN มีจุดเด่นจากการเป็นผู้นำในการจำหน่ายคอนเทนต์ทั้งในและต่างประเทศ เติบโตท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาอีกทั้งได้รับประโยชน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลบวกต่อรายได้จากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพิ่มขึ้นและช่วยหนุน GPM ขยายตัวจากตัดจำหน่ายต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ลดลง
โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ราว 71 ล้านบาท เติบโต 41% เมื่อเทียบจากปีก่อน และคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 ที่ 335 ล้านบาท เติบโต 33% เมื่อเทียบจากปีก่อน ส่วนปี 64 ที่ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบจากปีก่อน ยังไม่รวม Upside จากธุรกิจใหม่ด้าน Commerce ที่คาดว่าเริ่มรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในอนาคต ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้การขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์เพียงอย่างเดียว
ส่วน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท/หุ้น คาดว่าผลดำเนินงานของ JKN ในปี 63-64 จะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 63 ได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ที่เติบโตดี ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้รายได้อาจจะไม่ได้เติบโตเด่น แต่สามารถทำมาร์จิ้นให้เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/63 มีมาร์จิ้น 40%, ไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 46% และในไตรมาส 3/63 อยู่ที่ 50% หากคิด 9 เดือนของปี 63 JKN มีมาร์จิ้นเฉลี่ย 45% และในไตรมาส 1/64 ก็คาดว่ามาร์จิ้นจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
ในช่วงโควิด-19 ระบาด JKN ได้ซื้อคอนเทนท์ได้ราคาถูกลง และได้สิทธิระยะเวลายาวขึ้น โดยทางฝั่งยุโรป JKN สามารถซื้อคอนเทนต์ลดลง ส่วนซีรี่ย์อินเดียแม้จะไม่ลดราคาแต่ให้ลิขสิทธิ์ยาวขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ถูกลง ส่งผลให้มาร์จิ้นดีขึ้น
สำหรับปี 64 คาดว่า JKN จะมีมาร์จิ้น 47% แต่ก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นได้อีกหลังผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ประกาศออกมาแล้ว และปี 63 เบื้องต้นคาดว่าจะมีมาร์จิ้น 43.5% แต่มีแนวโน้มที่จะสูงมากกว่าคาด ทั้งนี้ ปกติในแต่ละปีทาง JKN ได้วางแผนในการซื้อคอนเทนท์ไว้ประมาณ 800-1,000 ล้านบาท/ปี แต่ในปี 63 ซื้อไปแล้วถึง 1,200 ล้านบาท เนื่องจากเป็นจังหวะที่ลงทุนได้ถูก
นอกจากนี้ ในปี 64 บริษัทมีแผนที่จะทำธุรกิจใหม่คล้าย RS ในธุรกิจเกี่ยวกับการขายเครื่องสำอาง สุขภาพความงาม, เครื่องดื่ม และพวกไลฟ์สไตล์ อย่างสอนทำอาหาร เป็นต้น และยังจะบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น หลัก ๆ จะอยู่ที่ CLMV อาทิ กัมพูชา, ลาว, เวียดนาม, พม่า และยังจะไปขายคอนเทนท์ ในแถบตะวันออกกลาง, ละตินอเมริกา ด้วย เป็นต้น
ทั้งนี้ JKN ทำธุรกิจการค้าคอนเทนท์ทั้งนำเข้าและส่งออกไปขาย ไม่ได้ขายที่ไทยที่เดียวยังขายในหลายประเทศ โดย JKN ก็เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับ บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) และบมจ.อาร์เอส(RS) ไปขายคอนเทนต์ ในต่างประเทศด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นละคร
พร้อมคาดการณ์กำไรปกติปี 63 ที่ 333 ล้านบาท เติบโต 32% จากปี 62 ที่มีกำไร 253 ล้านบาท และในปี 64 ก็คาดว่าจะมีกำไรปกติ 447 ล้านบาท เติบโต 34.1% จากปี 63 ซึ่งก็มีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการกำไรปี 63-64 ขึ้นได้อีก