ทุนจีนฮุบ “เคอร์รี่ฮ่องกง” รวบหุ้น “เคแอลเอ็น” 51.8% หวังขึ้นเบอร์ 1 แดนมังกร
ทุนจีนฮุบ “เคอร์รี่ฮ่องกง” รวบหุ้น “เคแอลเอ็น” 51.8% หวังขึ้นเบอร์ 1 แดนมังกร
บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยสารสนเทศร่วมกันระหว่าง Flourish Harmony Holdings Company Limited, บริษัทย่อยทางอ้อมของ S.F. Holdings Co., Ltd. (SF), Kerry Properties Limited และ Kerry LogisticsNetwork Limited (KLN) ว่า SF ได้แสดงเจตจำนงที่จะทำข้อเสนอซื้อหุ้นของกิจการเพียงบางส่วนด้วยวิธีเงินสดแบบมีเงื่อนไข (conditional partial cash offer) เพื่อซื้อหุ้นประมาณ 51.8% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ KLN ในวันที่ประกาศนี้ KLN เป็นผู้ถือหุ้นของ บริษัท เคแอลเอ็นโลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัดซึ่งปัจจุบันถือหุ้นของ KEX ประมาณ 52.1% ตามประกาศข้างต้นข้อเสนอนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขบางประการและอาจดำเนินการหรือไม่ก็ได้
สำหรับ SF EXPRESS เป็นบริษัทใหญ่อันดับ 2 ในแผ่นดินจีน และ มี partner ที่แข็งแกร่งมากแบบ DHL Group ซึ่งได้ทุ่มเงินซื้อไปเมื่อปี 2562 เป็น จำนวนกว่า 855 ล้านดอลลาร์ และ SF เป็นหนึ่ง partner ส่งของผ่านยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba ซึ่งแน่นอน SF จะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตของ Online shopping ในประเทศจีน ที่การจับจ่ายใช้สอยผ่าน Alibaba และ JD. com มีมูลค่ามหาศาล
ส่วน KLN ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ KEX เจ้าของคือมหาเศรษฐี เบอร์ 1 ใน Malaysia และมีธุรกิจที่ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆ ในฮ่องกง (Kuok group) จะช่วยให้ SF เพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายและบริการ supply chain ไปทั่ว Asia รวมถึงเป็นโอกาสให้ Kerry จะขยายเครือข่ายไปยังแผ่นดินจีน (เดิมเป็นเบอร์ 1 ของฮ่องกง)
“เอสเอฟ โฮลดิ้งส์ โค” หนึ่งในบริษัทที่ให้บริการส่งพัสดุรายใหญ่สุดของจีน กำลังหาทางเข้าครอบครองกิจกาบริษัท เคอร์รี่ โลจิสติกส์ เน็ตเวิร์ก จำกัด ด้วยการทำข้อตกลง 17,600 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดย เอสเอฟ โฮลดิ้งส์ ได้แจ้งแก่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันพุธว่า มีแผนที่จะซื้อหุ้นบริษัท เคอร์รี่ โลจิสติกส์ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง 51.8%ในราคาหุ้นละ 18.8 ดอลลาร์ฮ่องกง
ขณะเดียวกัน เคอร์รี่ โลจิสติกส์ ก็มีแผนที่จะขายสินทรัพย์โกดังสินค้าจำนวนหนึ่งเป็นเงิน 13,500 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง และธุรกิจในไต้หวัน อีก 4,500 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (161 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)ให้กับบริษัทแม่
“เคอร์รี่ โลจิสติกส์” เสนอจ่ายปันผลพิเศษ 7.28 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้นตามเงื่อนไขที่ระบุไว้เมื่อการขายคลังสินค้าเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ถือหุ้นที่ยอมรับข้อเสนของเอสเอฟจะได้รับเงินในราคาหุ้นละ 26.08 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งรวมเงินปันผลพิเศษ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าราคาปิดครั้งสุดท้าย 11%
ด้าน “โรเบิร์ต ก๊วก” ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีมาเลเซีย ถือหุ้นเคอร์รี่ โลจิสติกส์ผ่านบริษัท เคอร์รี่ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งของครอบครัว และบริษัทเคอร์รี่ พร็อพเพอตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในฮ่องกง
ทั้งนี้ เอสเอฟ โฮลดิ้งส์ จะเสนอซื้อเคอร์รี่ โลจิสติกส์ด้วยเงินสด และมีแผนการที่จะให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงต่อไป ซึ่งหลังจากการทำธุรกรรมแล้ว การถือหุ้นของเคอร์รี่ พร็อพเพอร์ตี้ ในเคอร์รี่ โลจิสติกส์ จะลดเหลือประมาณ 20% จาก 40%
ขณะที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น เอสเอฟ โฮลดิ้ง พุ่งเต็มเพดาน 10% ในตลาดเสิ่นเจิ้นหลังเริ่มการซื้อขายใหม่อีกครั้ง ขณะที่เคอร์รี่ โลจิสติกส์ ปรับตัวขึ้น 10.5% ทำสถิติในฮ่องกง ส่วนเคอร์รี่ พร็อพเพอร์ตี้ ปรับตัวขึ้น 19% โดยเป็นการปรับตัวขึ้นระหว่างวันมากสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2552
สำหรับข้อตกลงนี้จะช่วยให้เอสเอฟ โฮลดิ้งส์ มีเครือข่ายจัดจำหน่ายและบริการซัพพลาย-เชนมากขึ้นเนื่องจากบริษัทได้ขยายธุรกิจไปทั่วเอเชีย และ เคอร์รี่ โลจิสติกส์ จะกลายเป็นบริษัทหลักของเอสเอฟในการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ หุ้นเอสเอฟโฮลดิ้งส์ได้ปรับตัวขึ้นสองเท่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้บริษัทมีมูลค่ามากว่า เฟดเด็กซ์ คอร์ป และทำให้มีมูลค่าตลาดประมาณ 75,000 ล้านดอลลาร์
สำหรับ “เอสเอฟ” เป็นเจ้าของ เอสเอฟ เอ็กซ์เพรส ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ในจีน ในปี 2562 เอสเอฟ โฮลดิ้ง เข้าถือสิทธิ์ในสินทรัพย์ซัพพลายเชนในจีนของบริษัท ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล เป็นเงิน 5,500 ล้านหยวน (855 ล้านดอลลาร์)
“เคอร์รี่ โลจิสติกส์” ให้บริการส่งสินค้าทางอากาศ รถบรรทุก และบริการขนส่งสินค้าทางทะเล และบริการเป็นนายหน้าพิธีการทางศุลกากร และบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสำหรับบริษัทอีคอมเมิร์ซ ลูกค้าของบริษัท ได้แก่ แบรนด์แฟชั่นต่างๆ บริษัทจัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กโทรนิกส์ และบริษัทอื่นๆทั่วภูมิภาค
ขณะที่ เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เป็นที่ปรึกษาให้กับ เอสเอฟ โฮลดิ้ง ขณะที่บริษัทในเครือเคอร์รี่ กรุ๊ป มีซิตี้กรุ๊ป เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน