“ธปท.” จับมือ “กรมบังคับคดี” เปิดไกล่เกลี่ยลูกหนี้บัตรเครดิต-สินเชื่อ ออนไลน์พรุ่งนี้

ธปท. จับมือ กรมบังคับคดี เปิดลงทะเบียนไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิต-สินเชื่อ ออนไลน์พรุ่งนี้


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพต่างๆ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนให้ประชาชนรักษาวินัยการเงินที่อาจเกิดปัญหาได้ในช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ โดยเฉพาะการดูแลไม่ให้เกิดปัญหาข้อมูลเครดิต การผิดนัดชำระ จนกระทบต่อการประกอบอาชีพในระยะยาว

ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อกว่า 22 แห่ง จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งรัฐบาลขอเชิญชวนให้ผู้กำลังประสบปัญหาร่วมใช้บริการ

ทั้งนี้ มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมีข้อเสนอผ่อนปรนสำหรับลูกหนี้ 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 กลุ่มลูกหนี้ NPL ที่มีคำพิพากษาและเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีแล้ว มีข้อเสนอให้ชำระเฉพาะเงินต้น ไม่มีดอกเบี้ย โดยมีการวางกรอบการชำระหนี้ไว้ 3 ระยะ คือภายใน 3 เดือน ภายใน 3 ปี และภายใน 5 ปี หากชำระได้ตามแผนก็จะยกดอกเบี้ยให้ลูกหนี้

กลุ่มที่ 2 ลูกหนี้ NPLที่ยังไม่ถูกฟ้องร้องหรือถูกฟ้องแล้ว เมื่อสมัครเข้าร่วมมหกรรมฯ จะมีการรับเรื่องเข้าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ของศาล พร้อมกันนี้ ยังมีข้อเสนอผ่อนชำระ ระยะยาว เช่น ภายใน 10 ปี เป็นต้น

กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ขาดสภาพคล้องชั่วคราว ค้างชำระเกิน 3 เดือน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย จะช่วยแปรสภาพหนี้เป็นระยะยาว คิดดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง

สำหรับประชาชนที่มีปัญหาด้านการชำระหนี้สามารถเข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ฯ ด้วยการลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ 14 ก.พ.-14 เม.ย.64 ทางเว็บไซต์ของสำนักงานศาลยุติธรรม กรมบังคับคดี ธนาคารแห่งประเทศไทย และศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ซึ่งภายหลังการลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 1 สัปดาห์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 1213

“รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนที่มีปัญหาด้านการชำระหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเข้าร่วมโครงการเพื่อเปิดให้มีการไกล่เกลี่ยหนี้ พร้อมยื่นข้อเสนอเพื่อหาทางออกร่วมกันระหว่างลูกหนี้กับสถาบันการเงิน แก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนในช่วงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้างโดยเฉพาะมหกรรมไกล่เกลี่ยครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ถูกบังคับคดี ยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด จะสามารถไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้แทนการยึดทรัพย์ได้” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าจะมีมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยมีหลายมาตรการที่ช่วยดูแลเครดิตให้ประชาชน ไม่ว่าจะเป็น ‘ทางด่วนแก้หนี้’ สำหรับประชาชนและธุรกิจที่เป็นลูกหนี้ที่กำลังเดือดร้อน โดยจะช่วยรับเรื่องและเป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล ติดต่อหรือเจรจากับผู้ให้บริการทางการเงินในกรณีจำเป็น และมีช่องทาง ‘คลินิกแก้หนี้’ เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ค้างชำระและเป็น NPL กับผู้ให้บริการเพียงรายเดียวหรือหลายราย รวมทั้งหนี้ที่อยู่ในกระบวนการของศาลและมีคำพิพากษาแล้ว

Back to top button