เปิดโผ 17 หุ้น “Top pick” 11 หมวดธุรกิจ! โบรกฯชูปีนี้กำไรโตแรง-อัพไซด์สูงน่าเก็บ
เปิดโผ 17 หุ้น “Top pick” 11 หมวดธุรกิจ! โบรกฯชูปีนี้กำไรโตแรง-อัพไซด์สูงน่าเก็บ
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลกลุ่มหุ้นที่น่าลงทุนในปีนี้มานำเสนอ โดยครั้งนี้เน้นไปที่กลุ่มบริษัทจดทะเบียน(บจ.) 17 ราย ใน 11 หมวดธุรกิจที่คาดว่าจะทำกำไรปีนี้ออกมาโดดเด่น หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 พอสมควร โดยอาศัยข้อมูล “บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี” ซึ่งได้วิเคราะห์ไว้ดังนี้
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า แม้ในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยจะยังคงปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดหุ้นทั่วโลก จากการที่ยังรอดูผลการดำเนินงานไตรมาส 4/63 เนื่องจากประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 พอสมควรจนทำให้เราและตลาดคาดว่าผลกำไรปี 2563 ที่จะออกมาทั้งปีคาดว่าจะลดลง 40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปี 2564 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวแบบ turnaround +38% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
นำโดยกลุ่มก่อสร้างที่กำไรจะเติบโต+543% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,กลุ่มปิโตรเคมี +146% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,กลุ่มน้ำมัน (oil & gas) +122% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, กลุ่มโรงแรม +58% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มค้าปลีก +36% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามการเติบโตของกำไรที่สูงอาจจะมาจากฐานที่ต่ำมากในปี 2563 หรืออาจจะประสบภาวะขาดทุน ดังนั้นหากพิจารณาอัตราการเติบโตของผลกำไรเพียงอย่างเดียวก็อาจจะผิดพลาดได้
ดังนั้นจึงต้องทำการพิจารณาดูปัจจัยพื้นฐาน แนวโน้มการฟื้นตัวของรายได้กำไรและราคาที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานด้วย โดยจะได้หุ้น top pick ในแต่ละกลุ่มที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย
–กลุ่มปิโตรเคมี ให้ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 75.50 บาท
-กลุ่ม Oil & Gas ให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT,บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 52.00 บาทและ 67.00 บาท ตามลำดับ
–กลุ่มค้าปลีกให้ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL,บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 22.50 บาท และ 52.00 บาทตามลำดับ
–กลุ่มอสังหาฯ ให้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN,บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH,บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI,บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 58.00 บาท,9.90 บาท,24.00 บาทและ 3.86 บาท ตามลำดับ
–กลุ่มโรงพยาบาล ให้บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 3.10 บาท
–กลุ่มไฟแนนซ์ ให้ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 74.00 บาท
–กลุ่มอิเล็กโทรนิคส์ ให้ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 60.00 บาท
–กลุ่มธนาคาร ให้ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL,ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 146 บาท และ 156 บาท ตามลำดับ
–กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ให้ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 160 บาท
–กลุ่มสื่อโฆษณา ให้ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 8.90 บาท
–กลุ่มขนส่ง ให้ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เป็น top pick โดยมีราคาเป้าหมาย 13.30 บาท
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน