ZIGA ตั้งเป้าปีนี้รายได้โตเกิน 15% รุกขยายสาขา-เพิ่มช่องทางขายออนไลน์

นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 64 บริษัทจะเดินหน้ารุกขยายธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น โดยเน้นการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ที่เป็นการร่วมลงทุนกับนักธุรกิจและพันธมิตรท้องถิ่น กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการในพื้นที่แถบภาคอีสานและเหนือตอนกลาง ซึ่งในปีนี้มีแผนจะมีสาขาให้ครบ 60 สาขา จากปัจจุบันเปิดไปแล้ว 3 สาขา ได้รับผลตอบแทนดีเกินคาด  รวมทั้งยังมุ่งเน้นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีส่วนกำไรในระดับที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่การเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ช่องทางการซื้อผ่านระบบออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น บริษัทจึงเร่งพัฒนาช่องทางดังกล่าว เพื่อให้บริการแบบครบวงจร สามารถรองรับความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมพัฒนาระบบการขาย ระบบให้บริการหลังการขาย และเพิ่มจำนวนบุคลากรให้บริการใหม่ทั้งหมด คาดว่าจะดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบภายในไตรมาส 2/64

“เรากำลังจะมุ่งสู่ธุรกิจค้าปลีกอย่างเต็มรูปแบบ โดยการขยายสาขาในลักษณะแฟรนไชส์ ควบคู่ไปกับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ จะช่วยสนับสนุนให้เราบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ามีสาขาจำนวน 60 แห่ง มีความเป็นไปได้สูง เพราะบริษัทฯร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นที่มีศักยภาพเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%จากปีก่อน”นายศุภกิจ กล่าว

โดยปัจจุบันบริษัทมีการใช้กำลังการผลิตประมาณ 1.1 แสนล้านตันต่อปี จากกำลังการผลิตรวม 1.3 แสนล้านตันต่อปี ดังนั้นเมื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายระบบออนไลน์ มั่นใจว่ากำลังการผลิตที่มีอยู่ยังสามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาว ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่เคยวางไว้ โดยในอีก 2 ปีข้างหน้า บริษัทจะยื่นขอย้ายหุ้นเข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)  และนำหุ้นเข้าไปซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก ซึ่งบริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้ในธุรกิจค้าปลีกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 80% จากปัจจุบันยังมีจำนวนสาขาไม่มาก และยังไม่ได้ให้บริการระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ มีสัดส่วนต่ำกว่า 10%