เจาะกลุ่มหุ้นทองคำให้รีเทิร์นสูงกว่าตลาดเปิดเมนู 7 บจ.น่าสอยช่วงตลาดปรับฐาน
โบรกฯเปิดข้อมูลย้อนหลังพบ 6 กลุ่มบจ.ให้รีเทิร์นดีกว่าตลาดช่วงรีบาด์รับผลดีมาตรการกระตุ้นศก.ในประเทศ พร้อมแนะเก็บ 7 หุ้นช่วงพักฐาน เชื่อมีโอกาสดีดตัวจังหวะตลาดฟื้น
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.ย.) ว่า การ rebound ของตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา จากบริเวณ 1,300 จุด ณ ดัชนีขึ้นมาเกือบ 100 จุด ส่วนหนึ่งเกิดจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจากนี้จะไปได้ไกลแค่ไหนและกลุ่มอะไรจะเป็นช่วยหนุนตลาดนั้น ดูจากข้อมูลตลาดหุ้นย้อนไปในปี 2544 หลังแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น พบว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ฟื้นตัวตั้งแต่สู่เดือน ส.ค. 2544 และปรับขึ้นต่อเนื่องถึงวันที่ 4 ก.ย. 2544 เป็นระยะเวลานานกว่า 1 เดือน โดยให้ผลตอบแทน 14.1% โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาด
ส่วนรายชื่อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ของแต่ละกลุ่มสรุปได้ดังต่อไปนี้
– วัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 25.0% (VNG 42%, TPIPL 42%, SCC 30%)
– อสังหาฯ เพิ่มขึ้น 23.8% (AMATA 44%, SPALI 38%, QH 30%, LH 26%, AP 25%)
– สื่อสาร เพิ่มขึ้น 21.6% (INTUCH 39.9%, ADVANC 22.6%)
– ธุรกิจการเงิน เพิ่มขึ้น 19.9% (CNS 43.3%, KGI 32.1%)
– ธนาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 16.6% (KKP 26.4%, KBANK 26.4%, SCB 23.4%, BBL 22.2%, TCAP 18.5%)
– ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 15.0% (CCET 25.6%, DELTA 18.4%)
แต่เป็นที่สังเกตว่า หลังจากนั้น ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้นเป็นกว่า 1 เดือนหลังการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2544 พบว่า ตลาดมีการพักฐานเป็นเวลา 1 เดือน (ในเดือน ต.ค.) ก่อนที่จะฟื้นตัวอีกครั้งในเดือนถัดไป คือช่วงเดือน พ.ย. 2544 และขึ้นต่อเนื่องไปถึงเดือน เม.ย. 2547 โดย SET ปรับขึ้นไปได้อีกกว่า 50% ด้วยเหตุนี้หากเห็นว่าจังหวะตลาดปรับฐานแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, SCC, TASCO, ROBINS, ADVANC, INTUCH และ BTS เป็นต้น
ที่มา: บทวิเคราะห์ Market Talks