TU โชว์กำไรปี 63 ทะลุ 6.2 พันลบ. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พ่วงปันผล 0.40 บ.

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU  รายงานผลประกอบการปี 2563 สิ้นสุด 31 ธ.ค.2563 ดังนี้

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากธุรกิจหลักแข็งแกร่ง บริษัทฯ รายงานกำไรสุทธิสูงกว่าระดับ 6 พันล้านบาทเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ 6,246 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 64% จากปีก่อนหน้า โดยแม้หักค่าใช้จ่ายทางกฎหมายในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2562 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรกติก็ยังเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า

โดยในไตรมาสที่ 4/2563 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4/2562 มาอยู่ที่ 33,464 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายกลุ่มสินค้าธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปเติบโตกว่า 8.8% จากปีก่อนเนื่องจากปริมาณการขายที่ปรับเพิ่มขึ้น6.9% ยอดขายธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม และอื่นๆ ปรับเพิ่มขึ้น 8.0% โดยยอดขายรวมปี 2563 ปรับเพิ่มขึ้น 4.9% มาอยู่ที่ 132,402 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 มิ.ย.2563 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด) 0.40 บาทต่อหุ้น วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 9 มี.ค. 2564 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 8 มี.ค. 2564 วันที่จ่ายปันผล 21 เม.ย. 2564

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการถอนการลงทุนในบริษัท Seafood International One FZCO และ Seafood International Two FZCO ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การถอนการลงทุนคืนจากการซื้อหุ้นจำนวนร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท Seafood International Two FZCO (SIC2) และหุ้นจำนวนร้อยละ 10 ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท Seafood International One FZCO (SIC1) ซึ่งเป็นหุ้นบริษัทถือทั้งหมดในบริษัท SIC2 และ SIC1 ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ร่วมลงทุนกับ Savola Foods Company ซึ่งดำเนินธุรกิจในส่วนของอาหารและค้าปลีกในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) โดยก่อนการดำเนินการถอนการลงทุน บริษัทถือหุ้นจำนวนร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดใน SIC2 ซึ่งถือหุ้นจำนวนร้อยละ 80 ของ SIC1 และถือหุ้นอีกร้อยละ 10 โดยตรงใน SIC1 ซึ่ง SIC1 และ SIC2 นั้นเป็นที่รู้จักกันในนามของกลุ่ม SIC (SIC Group)

สำหรับสถานะหลังการถอนการลงทุนบริษัทไม่มีการถือหุ้นใดๆ ในบริษัท Seafood International One FZCO และ Seafood International Two FZCO อีก นอกเหนือจากนี้กรรมการที่ถูกแต่งตั้งโดยบริษัทจะลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด  ดังนั้นบริษัทจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออำนาจควบคุมในการบริหารจัดการบริษัททั้ง 2 แต่อย่างใด