TU ลุ้นกำไรไตรมาส 1 ฟื้น ดันทั้งปี 64 โตแตะ 6 พันลบ.
TU ลุ้นกำไรไตรมาส 1 ฟื้น ดันทั้งปี 64 โตแตะ 6 พันลบ.
บริษัท ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU โดยมีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรช่วงครึ่งหลังของปี 2564 โดยคาดว่ากำไรปีนี้อาจอ่อนตัวลง เพราะฐานกำไรไตรมาส 2/63 – 3/63 ที่สูงมาก จากอานิสงส์ของ Panic Buy ซึ่งคาดจะหายไปในปีนี้เมื่อสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 คาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 6,035 ล้านบาท (ลดลง 3.4% จากปีก่อน)
โดยใช้สมมติฐานรายได้ทรงตัวจากปีก่อน และอิงค่าเงินบาทที่ 30.5 บาท/USD และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2564 เท่ากับ 20 บาท (อิง PE เดิม 17 เท่า) ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดที่ PE ปี 2564 เพียง 11.5 เท่า และประกาศจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังของปี 2563 หุ้นละ 0.4 บาท ดิวิเดนท์ยีล 2.9% จึงยังแนะนำ “ซื้อ” นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมนำบริษัทย่อย TFM (ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์) ขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ในระยะสั้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/64 ยังดูสดใสแม้ฐานรายได้ Ambient ยังสูงขึ้นในปีก่อน แต่ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ยังมีอยู่ น่าจะทำให้ Ambient อยู่ในระดับสูง และคาดเห็นการฟื้นของ Frozen มากขึ้นเพราะฐานต่ำ ในขณะที่ราคาปลาทูน่าช่วงไตรมาส 4/63 ยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นบวกต่อต้นทุนและมาร์จิ้นในไตรมาส 1/64 และคาดหวังการฟื้นตัวของ Red Lobster
โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2564 จะโตต่อเนื่อง 3% – 5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ฐานจะค่อนข้างสูงในปีก่อน และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17% ลดลงจาก 17.7% ในปี 2563 จากการฟื้นตัวของ Frozen Food (มาร์จิ้นต่ำกว่า Ambient) และต้นทุนราคาปลาทูน่าที่อาจปรับขึ้นจากการเกิด Inflation และยังเดินหน้าลงทุนขยายเข้าสู่ธุรกิจสินค้าที่มีนวัตกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง
ด้าน บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 19.30 บาท (อ้างอิงจาก P/E เหมาะสมที่ 14.88 เท่า) โดยคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทรงตัวจากฐานที่สูงในปี 63 (สัดส่วนรายได้ธุรกิจ Frozen & chilled seafood ลดลง ราคาปลาทูน่าที่ลดลงไปถึงระดับ 900 USD/ton ในช่วงปลายปี 62 ขณะที่ยอดขายอาหารกระป๋องได้แรงหนุนจาก Covid-19 ล้วนเป็นส่วนขับเคลื่อนให้ GPM ปรับตัวสูงขึ้น)
อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 65 TU จะสามารถกลับมาเติบโตได้จากการฟื้นตัวในด้านการดำเนินงานของ Red Lobster การเพิ่มยอดขายกลุ่มธุรกิจ Petcare การร่วมมือกับ IP และการร่วมมือกับ ThaiBev ในการผลิต/ขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ