ASAP งดปันผล หลังผลงานปี 63 ขาดทุนเพิ่มมาที่ 91 ลบ.
ASAP งดปันผล หลังผลงานปี 63 ขาดทุนเพิ่มมาที่ 91 ลบ.
บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4 และงวดปี 2563 ดังนี้
ทั้งนี้ รายได้จากการขายและบริการมีจำนวน 3,487.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 350.30 ล้านบาท หรือร้อยละ 11 จากจำนวน 3,137.63 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายรถยนต์จำนวน 341.79 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ขายเพิ่มขึ้นจาก 933 คันในปี 2562 เป็น 1,971 คันในปี 2563 และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้เช่า รถยนต์และให้เช่าพื้นที่โครงการ asap AutoPark จำนวนรวม 8.51 ล้านบาท ต้นทุนขายและบริการมีจำนวน 3,120.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 494.60 ล้านบาท หรือร้อยละ 19 จากจำนวน 2,625.43 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขายรถยนต์จำนวน 368.30 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ขายในปี 2563 เพิ่มขึ้นตามที่ได้กล่าวข้างต้น และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนบริการให้เช่ารถยนต์จำนวน 125.49 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคารถยนต์ให้เช่า ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ ค่าประกันภัยและค่าจดทะเบียนรถยนต์
เนื่องจากจำนวนรถยนต์ให้เช่าเฉลี่ยในปี 2563 มากกว่าปี 2562 รายได้อื่นมีจำนวน 68.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 90 จากจำนวน 36.16 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน ค่าใช้จ่ายขายมีจำนวน 30.00 ล้านบาท ลดลง 6.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 17 จากจำนวน 36.09 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน และค่าใช้จ่ายบริหารมีจำนวน 109.50 ล้านบาท ลงลง 31.30 ล้านบาท หรือร้อยละ 22 จากจำนวน 140.80 ล้านบาทใน งวดเดียวกันของปีก่อน
โดยสะท้อนวินัยในการควบคุมค่าใช้จ่าย ต้นทุนทางการเงินมีจำนวน 387.80 ล้านบาท ลดลง 23.25 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 จากจำนวน 411.05 ล้านบาทในงวดเดียวกัน ของปีก่อน เนื่องจากบริษัทชะลอการเพิ่มจำนวนรถยนต์ให้เช่า บริษัทมีขาดทุนก่อนภาษีเงินได้สำหรับปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 90.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 129 จากขาดทุนจำนวน 39.57 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยสาเหตุหลักมาจากเพิ่มขึ้นของต้นทุนการให้เช่ารถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่ารายได้ค่าเช่ารถยนต์ ผลขาดทุนจากการขายรถยนต์เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดรถยนต์ มือสองและผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19
บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 90.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.76 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 จากขาดทุนสุทธิจำนวน 89.79 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2562 บริษัทมีการบันทึกกลับรายการ สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีทำให้มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จำนวน 50.22 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2563 บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้