ORI ไตรมาส 1 กำไรเด้ง รับรู้ “แบ็กล็อก” 2 พันลบ. – ยอดโอนคอนโดใหม่ 2 โครงการ
ORI ไตรมาส 1 กำไรเด้ง รับรู้ "แบ็กล็อก" 2 พันลบ. - ยอดโอนคอนโดใหม่ 2 โครงการ
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ราคาเป้าหมาย 10 บาท/หุ้น โดยทองว่าในปี 2564 ผลงานจะกลับมาโดดเด่น โดยยังคงประเมินกำไรสุทธิ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 29% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีคอนโดใหม่เริ่มโอน 8 โครงการ ขณะที่มี backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 ค่อนข้างสูงแล้วที่ 75% จากรายได้ที่ฝ่ายวิจัยประเมิน
โดยในงวดไตรมาส 1/64 กำไรจะกลับมาดีขึ้นมากทั้งจากปีก่อนและไตรมาสก่อน จาก backlog ที่รับรู้รายได้ไม่ทันราว 2 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/63 จะรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/64 แทน และจะมีคอนโดใหม่เริ่มโอนอีก 2 โครงการเพิ่มด้วย
ทั้งนี้ มองว่าไตรมาส 1/64 จะกลับมาโดดเด่น และยังคงประเมินกำไรปี 64 กลับมาเติบโตสูง 20% เทียบกับปีก่อน โดยประเมินกำไรสุทธิปี 64 ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน ส่วนกำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน เนื่องจากมีคอนโดใหม่ที่เริ่มโอนปีนี้ถึง 8 โครงการ
โดยมีโครงการ highlight ได้แก่ Park Origin ทองหล่อ (JV) มูลค่าโครงการสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ขายได้แล้ว 74% เริ่มโอนไตรมาส 4/64 และ Park Origin พญาไท มูลค่าโครงการ 4.6 พันล้านบาท ขายได้แล้ว 75% เริ่มโอนไตรมาส 3/64 รวมถึงรายได้จากโครงการแนวราบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น
สำหรับ backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 คาดว่าเพิ่มขึ้นเป็น 75% จากรายได้ที่เราประเมิน ซึ่ง backlog ในงวดไตรมาส 4/63 ที่ยังรับรู้เป็นรายได้ไม่ทันราว 2 พันล้านบาท จะไปเป็น backlog ที่รับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 1/64 แทน ซึ่งจะทำให้กำไรไตรมาส 1/64 กลับมาเติบโต
นอกจากนั้น อาจมีกำไรพิเศษราว 100-200 ล้านบาท จากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 2-3 แห่งให้กับบริษัท JV ซึ่งเรายังไม่ได้รวมในประมาณการ
ขณะที่ราคาหุ้น underperform SET -17% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากกำไรไตรมาส 4/63 ที่ปรับตัวลงจากผลกระทบ COVID-19 ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นโอกาสในการ ซื้อ จากกำไรปี 2564 ที่จะกลับมาเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะในไตรมาส 1/64 ที่จะดีขึ้นมากทั้งจากปีก่อน และไตรมาสก่อน
อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยยังคงประเมินราคาเป้าหมาย 10 บาท โดยอิง P/E ปี 2564 ที่ 7.9 เท่า (5-yr average PER) โดยมี key catalyst จากกำไรไตรมาส 1/64 ที่จะกลับมาโดดเด่น และปี 2564 ที่เติบโตสูง เนื่องจากมีคอนโดใหม่เริ่มโอนค่อนข้างมาก และยังมี backlog ที่รอรับรู้เป็นรายได้ที่สูง