PTG เป้าปีนี้กำไร 1.8 พันลบ. ชี้ยอดขายน้ำมันโต 12% ขยายอาณาจักร “นอนออยล์”

PTG เป้าปีนี้กำไร 1.8 พันลบ. ชี้ยอดขายน้ำมันโต 8-12% เน้นขยายอาณาจักร "นอนออยล์" ทำ Solar farm, การทำ EV changer, โรงไฟฟ้าขยะ 6 เมกะวัตต์ หาโอกาสเรื่องกัญชงต่อยอดธุรกิจ Food and Beverage


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากผู้บริหาร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ยังคงตั้งเป้าปริมาณขายน้ำมันปี 2564 เติบโต 8-12% จากการเปิดเมือง และการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการตั้งเป้าการขยายสาขาในปีนี้ราว 100-150 แห่ง ในขณะที่ยังประเมินว่าค่าการตลาดจะยังอยู่ในระดับที่ดีที่ 1.8-1.9 บาทต่อลิตร

นอกจากนี้ยังหาโอกาสทางธุรกิจ Non-oil ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำ Solar farm, การทำ EV changer, โรงไฟฟ้าขยะ 6 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 60 ล้านบาท และหาโอกาสเรื่องกัญชงต่อยอดธุรกิจ Food and Beverage สำหรับโครงการ Palm complex เองก็เตรียมโครงการลงทุน

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมนำ 2 บริษัทในเครือเข้าตลาดฯ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ คือ 1) บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจ LPG ที่เน้นภาคครัวเรือนซึ่งมีการเติบโตมาก โดยบริษัทตั้งเป้า แอตลาส ในอีก 5 ปีจะมี CAGR กว่า 50% และ2) Palm Complex ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมัน B100 ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 เท่าตัว เป็น 1.3 ล้านลิตร

ในส่วนของแนวโน้ม Volume ในไตรมาส 1/2564 ยังดีจากงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าช่วงเดือน ม.ค.64 มีผลกระทบจากการ lockdown แต่กระทบปริมาณขายในเดือน ม.ค. เพียงเล็กน้อย แต่พอเข้าสู่เดือน ก.พ. ปริมาณการสัญจรกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ยังคงประมาณการกำไรปี 2564 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ด้วยมุมมอง conservative โดยยังประเมินกำไรจากส่วนแบ่งรายได้ Palm Complex ที่ 200 ล้านบาท แต่แนวโน้มราคาปาล์มยังอยู่ในระดับสูง 35 บาทต่อกก ซึ่งยังอยู่สูงในระดับเดียวกับไตรมาส 4/2563 ที่ผ่านมา ดังนั้นมีโอกาสที่ส่วนแบ่งกำไรจะมากกว่าที่คาดไว้

ด้วย supply disruption ในอุตสาหกรรมปาล์มทั่วโลกจาก COVID-19 ส่งผลให้ผู้ส่งออกปาล์มรายใหญ่ของโลกทั้ง อินโดนีเซียและมาเลเซียประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในการเก็บผลผลิต ซึ่งน่าจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปในครึ่งแรกของปี 2564 ดังนั้นแล้วประเมินว่าราคาปาล์มในประเทศไทยจะยังคงอยู่สูงในระดับ 35-40 บาทต่อกก ต่อไปและทำให้ส่วนแบ่งกำไรของ Palm complex จะยังอยู่สูงที่ระดับ 100-150 ล้านบาทต่อไตรมาส ส่วนของกำไรปรับราคาเป้าหมายปี 2564 ขึ้นเป็น 25.00 บาท

เนื่องด้วยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2564 น่าจะยังเติบโตได้จากการสัญจรรถยนต์ที่มากขึ้น กลับมาคึกคักอีกครั้ง และค่าการตลาดยังอยู่ในระดับดีมากที่ 1.9 บาทต่อลิตร และมี Upside ต่อราคา CPO ที่ปรับเพิ่มขึ้น  แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 25 บาท

Back to top button