PRIME บวก 4% โบรกฯ เชียร์ซื้อเป้า 0.65 บ. มองกำไรปี 64-65 โตแกร่ง รับบุ๊กขายไฟฟ้าเพิ่ม

PRIME บวก 4% โบรกฯ เชียร์ซื้อเป้า 0.65 บ. มองกำไรปี 64-65 โตแกร่ง รับบุ๊กขายไฟฟ้าเพิ่ม ล่าสุดอยู่ที่ 0.51 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 4.08% มูลค่าซื้อขาย 7.86 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME ล่าสุด ณ เวลา 10.18 น. อยู่ที่ 0.51 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 4.08% สูงสุดที่ 0.52 บาท ต่ำสุดที่ 0.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 7.86 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” PRIME ราคาเป้าหมาย 0.65 บาท/หุ้น โดยมี investment highlights คือ 1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามี บริษัทมีโอกาสสูงที่จะได้รับงานอีกอย่างน้อย 240MW (จากกำลังการผลิตในปัจจุบันที่มี PPA รองรับอยู่เพียง 141MW), 2) ธุรกิจใหม่ EPC, Trading and Consulting อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง โดย EPC solar rooftop มีโอกาสขยายตลาดเข้าสู่ภาคครัวเรือนมากขึ้นจากต้นทุนที่ลดลง ในขณะที่ธุรกิจ consulting เตรียมรับความต้องการบริการมากขึ้นหลังภาครัฐประกาศใช้ Building Energy Code บังคับการควบคุมการใช้พลังงานในอาคาร โดยบริษัทเริ่มต้นได้ดีและมี revenue contribution ในส่วนนี้กว่า 31% ในไตรมาส 4/63 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาส และ 3) กำไรเติบโตโดดเด่น 34% ต่อปี (CAGR ปี 2563-2565)

โดยประเมินกำไรปี 2564 ที่ 469 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบจากปีก่อน) และกำไรปี 2565 ที่ 508 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบจากปีก่อน) เติบโตเฉลี่ย 34% ต่อปี เมื่อเทียบจากปีก่อน) หนุนโดยการรับรู้รายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยในปี 2564 รับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการโซลาร์ He Wu 2 และ Shin Shi 2 รวม 2.5MW (COD ไตรมาส 2/63) และ COD โครงการ Onami ในญี่ปุ่น 4MW ในไตรมาส 4/64

พร้อมกับรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยประเมินรับรู้เข้ามาราว 1.1 พันล้านบาท (50% เป็น secured backlog) ต่ำกว่าที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ในส่วนนี้ที่ราว 1.5 พันล้านบาท (เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท บล.เคทีบีเอสที จึงใช้ conservative assumption และรอดูพัฒนาการ โดยมีโอกาสเกิด upside หากบริษัทสามารถทำได้ตามเป้า) ในขณะที่ปี 2565 ผลประกอบการมี key driver หลักคือการ COD โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่กัมพูชาขนาด 60MW ในไตรมาส 2/65

Back to top button