TPIPP ผนึก 2 พันธมิตรเกาหลีใต้ ลุยโรงไฟฟ้าโคเจนฯ มูลค่าลงทุนกว่าแสนลบ.

นายประชัย เลี่ยวไพรรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP พร้อมด้วย นาย ยังคะวอน ปาร์ค รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Korea Gas Corporation และ นาย ซังมุน ฮัน รองประธานกรรมการ บริษัท Korea Western Power ได้เข้าร่วมลงนามในการบันทึกข้อตกลง MOU เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม และ LNG Terminal ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อำเภอ จะนะ จังหวัด สงขลา ผ่านช่องทาง Online

โดยบริษัท Korea Gas Corporation เป็นบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ ก๊าซ LNG ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่าย นำเข้า หรือ จัดหา โดยเป็นบริษัทผู้จัดจำหน่าย ก๊าซ LNG ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สอดรับกับการดำเนินโครงการเมืองต้นแบบจะนะที่ TPIPP กำหนดแผนลงทุนยกระดับอำเภอจะนะเป็นสมาร์ทซิตี้ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยุคใหม่กระจายสู่อาเซียน เป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตซึ่งจะมีทั้ง อุตสาหกรรมสมัยใหม่เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ, เมืองอัจฉริยะ, ท่าเรือน้ำลึกและศูนย์การขนส่งและกระจายสินค้า ตลอดจนศูนย์อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าสะอาด

ส่วนบริษัท Korea Western Power เป็นบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างโรงไฟฟ้า ควบคุมการผลิต และซ่อมบำรุง ไม่ว่าจะเป็น โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และโรงไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สะท้อนภาพโครงการจะนะ ฉายภาพอุตสาหกรรมในอนาคต เปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมไฟฟ้าสะอาดเต็มรูปแบบ ทั้งพลังงานลม โซล่าร์ รวมถึงการผลิตแบตเตอร์รี่ ซึ่งปัจจุบันพบว่า พื้นที่ภาคใต้ยังต้องนำเข้าพลังงานจากส่วนกลางหรือมาเลเซียเนื่องจากยังไม่มีโรงงานไฟฟ้าเพียงพอ ประกอบกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวีคาร์ มีแนวโน้มเข้ามาแทนที่รถยนต์น้ำมัน ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ความต้องการไฟฟ้าในภาคใต้โตอย่างก้าวกระโดด TPIPP พร้อมเป็นผู้ลงทุนพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดทุกชนิดและเชิญผู้ร่วมลงทุนจากประเทศต่าง ๆ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้บริษัทคาดว่าการลงทุนมูลค่ากว่าแสนล้านบาทจะก่อให้เกิดการจ้างงานกว่าแสนตำแหน่ง อันจะมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้พี่น้องภาคใต้ เพื่อความกินดีอยู่ดี สะท้อนความมั่นคงของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ถือเป็นกุญแจที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทางบริษัท TPIPP หวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้และการสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับรายได้รวมถึงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับประชาชน