10 อันดับหุ้น SET100 พุ่งแรง 2 เดือนแรกปีนี้! STA ฟันรีเทิร์นสูงสุดเกิน 100%

10 อันดับหุ้น SET100 พุ่งแรง 2 เดือนแรกปีนี้! STA ฟันรีเทิร์นสูงสุดเกิน 100%


ดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index ในช่วง 2 เดือนแรกปี 2564 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยเห็นได้จากดัชนียืนที่ระดับ 1449.35 จุด (ณ 30 ธ.ค.63) มาอยู่ที่ระดับ 1496.78 จุด (ณ 25 ก.พ.64) เพิ่มขึ้น 47.43 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.27% โดยในช่วงดังกล่าวตลาดหุ้นโลกเข้าสู่โหมดปรับฐานได้กดดันหุ้นไทยปรับฐานต่อเนื่องหลังทะยานขึ้นแรงในช่วงต้นปี

ผสานกับแรงขายปรับพอร์ตต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศระยะสั้น อีกทั้งตลาดขาดปัจจัยหนุน เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้การลงทุน 2 เดือนแรกปีนี้ นักลงทุนเน้นเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2563 ออกมาแข็งแกร่ง และเน้นลงทุนหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก

อย่างไรก็ตามครั้งก่อนทีมข่าวข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจกลุ่มหุ้น SET50 ที่ราคาปรับตัวแรงไปแล้ว ครั้งนี้จะขอนำเสนอกลุ่มหุ้น SET100 ที่ราคาปรับตัวขึ้นแรง 10 อันดับแรกของกลุ่มเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการลงทุนช่วงนี้ โดยเทียบข้อมูลราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค.2563-2 ก.พ.2564 ซึ่งประกอบด้วย STA,RBF,RS, DOHOME,BCP,CENTEL,EPG,JMART,COM7,KCE ตามตารางประกอบดังนี้

สำหรับหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงอันดับ 1 คือ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA โดยราคาหุ้นในช่วง 2 เดือนแรกปี 2564 ปรับตัวขึ้น 103.77% จากระดับ 26.50 บาท ณ วันที่ 30 ธ.ค.63 มาอยู่ที่ระดับ 54.00บาท ณ วันที่ 25 ก.พ.64 คาดราคาหุ้นปรับตัวแรงจากปัจจัยบวกธุรกิจยางรับอานิสงส์จากการระบาดโควิด-19 ช่วยหนุนผลประกอบการในปี 2563 เติบโตโดเด่น และสดใสต่อเนื่องในปี 2564

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของกำไรของ STA ระยะยาวค่อนข้างมาก หลังจากที่บริษัทประกาศที่จะลงทุนในธุรกิจกัญชงซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่จะเพิ่มกำไรให้กับบริษัทอย่างมีนัยนะตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ต่อยอดจากธุรกิจถุงมือยาง (ถือ 56% ในบริษัท STGT ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ที่ทำให้กำไรบริษัทเติบโตดีตั้งแต่2563-2566

โดย STA มีศักยภาพและความพร้อมมากที่จะทำธุรกิจกัญชง เทียบกับบริษัทอื่นๆ เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูก และเป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูงที่รัฐบาลให้การส่งเสริมมาก โดยสามารถนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเช่น อาหาร, ยา, เครื่องดื่ม และ ผลิตภัณฑ์ความงามปัจจุบัน STA อยู่ระหว่างยื่นขอในอนุญาตปลูกกัญชง

โดยบริษัทตั้งเป้าจะเป็นผู้ปลูกกัญชงรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และจะเริ่มต้นปลูกกัญชงเฟสแรก 100-200 ไร่ ในปี2564 และมีแผนจะขยายเป็น 2,000 ไร่ ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า

ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-2565 ขึ้น +61%/+50% โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 16,137 ล้านบาท (+69% เทียบช่วงเดียวกันสของปีก่อน) และ 2022E ที่  14,959 ล้านบาท (ลดลง 7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) สะท้อนกำไรที่ปรับเพิ่มขึ้นของธุรกิจถุงมือยาง (STGT)เป็นหลัก จากราคาถุงมือยางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก และกำไรจากธุรกิจกัญชงเล็กน้อย โดยคาดว่าธุรกิจกัญชงจะสร้างกำไรให้กับบริษัทอย่างมีนัยนะตั้งแต่ปี 2023E เป็นต้นไป เบื้องต้นสมมุติฐานเราเพิ่มธุรกิจปลูกกัญชงเข้าไปในปี 2021E จำนวน 150 ไร่/crop/ปี และ ปี 2022E 300 ไร่/2crops/ปี และ 2,000 ไร่ ภายในปี 2025E

ด้านราคาหุ้น Outperform SET +50%/+82% ใน 1 และ 3 เดือนจากธุรกิจถุงมือยางและความคาหวังต่อธุรกิจกัญชง อย่างไรก็ตามเราคงคำแนะนำ ซื้อ โดยเรามองว่าแม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมามาก  แต่ Valuation ปัจจุบันยังค่อนข้างน่าสนใจ โดยปัจจุบันเทรดที่ 2021E PER เพียง 5.0 เท่า ในขณะที่ธุรกิจกัญชงจะทำให้กำไรสามารถทรงตัวในระดับสูงได้ในระยะยาว ประกอบกับโอกาสที่ STA จะเข้าไปเทรดใน SET 50 ในอนาคต

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button