DRT ดันรายได้ปีนี้โตเกิน 5% เน้นคงมาร์จิ้นระดับสูง-ออกสินค้าใหม่

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 64 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% โดยจะเน้นการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 27-29% จากที่ปีที่แล้วสามารถผลักดันกำไรสุทธิให้สูงขึ้นมาเป็น 29% ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 25-27%

โดยในปีนี้บริษัทจะเน้นการสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น ผ่านการออกโฆษณาใหม่ พร้อมมีแผนการตลาดด้านฟังก์ชั่นและแฟชั่น “สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง” รวมทั้งมีการเพิ่มสื่อออนไลน์ในสัดส่วนที่มากขึ้นและหลากภาษาทั้ง จีน เมียนมา ลาว และ กัมพูชา

ขณะเดียวกันก็จะเน้นช่องทางการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยตั้งเป้าสัดส่วนยอดขายกว่า 55% ของยอดขายทั้งหมด รองลงมา เป็นช่องทาง Modern Trade วางเป้าไว้ที่ 15% ส่งออก 20% และขายผ่านโครงการ 15% ทั้งนี้เพื่อบริหารความเสี่ยงของธุรกิจเชิงรายได้ เนื่องจากปี 63 ช่องทางขายทั้ง Modern Trade, ส่งออก และผ่านโครงการมีรายได้ลดลงจากสถานการณ์โควิดที่มีการล็อกดาวน์ประเทศ แต่ช่องทางตัวแทนจัดจำหน่ายกลับมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถชดเชยช่องทางอื่นๆ ที่ลดลงได้

ทั้งนี้ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้พบว่า ยอดขายเติบโตในทุกๆ ช่องทาง ซึ่งในส่วนของโครงการมีการเติบโตมากที่สุด เนื่องจากปีที่แล้วรายได้ลดลงไปมาก

นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทได้ออกบริการใหม่ Re-roof และ Repaint คือบริการเปลี่ยนกระเบื้องและสีหลังคา โดยออกสีใหม่ของกระเบื้องคอนกรีตเวนีสและแกรนด์ออนด้า รวมถึงเพิ่มมูลค่าของสินค้าเดิมด้วยการออกผลิตภัณฑ์ไม้ฝาคอฟฟี่ซีรีย์ด้วย และยัมีผลิตภัณฑ์บอร์ดตกแต่งพนังพิมพ์ลายดิจิทัล ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าเรื่องการติดตั้งที่รวดเร็ว

รวมถึงมีการต่อยอดโครงการจากปี 63 “Diamond Design Contest” สร้าง “Diamond Studio” ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจาก 25 ตารางเมตร เป็น 75 ตารางเมตร และยังมีแผนออกงาน “บ้านและสวน” จัดแสดงบ้านสำเร็จรูปแบบที่ 2 ขนาด 35 ตารางเมตร เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่สนใจบ้าน หรือร้านเพื่อนำไปทำธุรกิจ

“สิ่งที่น่ากังวลเป็นเรื่องต้นทุน และคาดว่าหลายธุรกิจได้รับผลกระทบคือด้านโลจิสติกส์ เรือ และตู้คอนเทนเนอร์ที่ขาดแคลน บริษัทจึงพยายามบริหารจัดการ และหาวัตถุดิบในประเทศมากขึ้น รวมถึงมีการปรับสัดส่วนต่างๆ ใหม่ โดยมีแผนลดต้นทุนโดยนำหุ่นยนต์มาช่วยทดแทนแรงงานคนบางส่วน ซึ่งปัจจุบันมี 8-9 ตัว ตั้งเป้ามีจำนวน 50 ตัวภายใน 5 ปีเพื่อนำมาใช้ลดแรงงานภายนอกที่ทำงานซ้ำ” นายสาธิต กล่าว