“บี.กริม” เดินหน้าขยายพื้นที่ป่าลด “ก๊าซเรือนกระจก” ตั้งเป้าลดปล่อย “คาร์บอนไดออกไซด์”

“บี.กริม” เดินหน้าขยายพื้นที่ป่าลด “ก๊าซเรือนกระจก” ตั้งเป้าลดปล่อย “คาร์บอนไดออกไซด์”


ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม เปิดเผยว่า หนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของ บี.กริม คือการที่ บี.กริม เพาเวอร์ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices) หรือ DJSI ซึ่งจัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือของ S&P Global และ SAM เป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้เสีย

ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายดังกล่าว บริษัท บี.กริม คันทรี่ คลับ จำกัด ได้จัดพิธีลงนามในสัญญาว่าจ้าง ปลูกสวนป่าเศรษฐกิจ จำนวน 250 ไร่ กับ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) โดยนางพรเพ็ญ วรวิลาวัลย์ ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ในวันที่ 25 มีนาคม 2564 เพื่อปลูกไม้เศรษฐกิจ 8 ชนิด ได้แก่ ไม้สัก พะยูง ชิงชัน มะค่าโมง นนทรีป่า หรืออะราง ประดู่ แดง และมะฮอกกานี รวม 27,500 กล้า ในพื้นที่ ไทยโปโล แอนด์ อีเวสเทรียน คลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี รวมพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ กำหนดระยะเวลาปลูกแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์และความสมดุลแก่ธรรมชาติ สร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศ และชุมชนโดยรอบ

โครงการปลูกป่า เป็นโครงการตามเจตนารมณ์ของ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม ที่ต้องการปลูกป่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน เพิ่มพื้นที่ให้สัตว์ต่างๆ ได้ขยายพันธุ์ และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ และในอนาคตยังสามารถต่อยอดเป็นพื้นที่ต้นแบบการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศวิทยา เป็นแหล่งบ่มเพาะความรู้ และแหล่งสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า ให้แก่ชุมชนโดยรอบและบุคคลทั่วไป

ความร่วมมือกับ อ.อ.ป. ในครั้งนี้ เป็นการปลูกสวนป่าเศรษฐกิจระยะยาว เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดิน และสร้างประโยชน์แก่สภาพแวดล้อม ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก โดยเป็นต่อยอดจากปี 2563 ที่ บี.กริม ได้ร่วมกับ กรมป่าไม้ จัดกิจกรรมปลูกป่าในพื้นที่ไทยโปโลฯ จ.ชลบุรี 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการปลูกกล้าไม้นานาพันธุ์ อาทิ สัก ประดู่ ยางนา กว่า 10,000 ต้น เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2563 และครั้งที่ 2 จัดกิจกรรมปลูกสวนป่า และกล้าไม้ทรงปลูก “ต้นราชพฤกษ์” และ “ต้นนนทรี” เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2563 รวมพื้นที่ 200 ไร่

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมนำโครงการดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ซึ่งเป็นกลไกที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศ เพื่อเป็นต้นแบบให้แก่หน่วยงานต่างๆ ต่อไป

Back to top button